สภาผู้บริโภคแนะนำข้อมูลเบื้องต้นแก่ผู้บริโภคที่อยากซื้อประกันภัยอย่าง ประกันสุขภาพ ประกันสะสมทรัพย์ ต้องเช็กรายละเอียดสำคัญให้ดีก่อนซื้อ เพื่อลดความเสี่ยงและได้ความคุ้มค่าสูงสุด

- ผู้บริโภคต้องพิจารณาความเสี่ยงภัยของตัวเอง ควบคู่ไปกับประกันภัย สิทธิ และสวัสดิการที่มีอยู่เดิม ว่าเราเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุหรือภัยต่าง ๆ มากแค่ไหน อย่าลืมดูว่ามีประกันสุขภาพ ประกันสะสมทรัพย์ สิทธิหรือสวัสดิการอะไรอยู่บ้าง ถ้ามีอยู่แล้ว สภาผู้บริโภคแนะนำให้ดูต่อว่าความคุ้มครองและสวัสดิการต่าง ๆ ที่มีอยู่นั้นเพียงพอกับความต้องการไหม เช่น สมมติเรามีสิทธิประกันสังคมอยู่แล้ว แต่ต้องการดูแลค่ารักษาเพิ่มเติมจากที่มีอยู่เดิม ก็สามารถเลือกซื้อความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากการประกันสุขภาพเพิ่มเติมได้
- สภาผู้บริโภคแนะให้เปรียบเทียบความคุ้มครอง รวมถึงเงื่อนไขและข้อยกเว้นการให้ความคุ้มครองผลิตภัณฑ์ประกันภัย โดยแต่ละแบบจะมีความคุ้มครอง เงื่อนไขและข้อยกเว้นที่แตกต่างกัน เช่น การประกันภัยสุขภาพบางฉบับจะกำหนดระยะเวลาไม่คุ้มครอง บางฉบับคุ้มครองถึงอายุ 80 ปี ในขณะที่บางฉบับคุ้มครองตลอดชีพ ดังนั้น ผู้บริโภคที่สนใจทำประกันภัยประเภทต่างๆ ควรเปรียบเทียบความคุ้มครองที่สนใจว่าแตกต่างกันอย่างไร และการประกันภัยฉบับไหน หรือประเภทไหน ที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด
- ผู้บริโภคควรพิจารณารูปแบบการชำระ รวมถึงความสามารถในการชำระเบี้ยประกันภัยของตัวเอง ผลิตภัณฑ์ประกันภัยในแต่ละรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นประกันสุขภาพ ประกันสะสมทรัพย์ หรืออื่นๆ ก็จะมีค่าเบี้ยประกันภัยแตกต่างกันออกไปตามความคุ้มครองที่กำหนดไว้ ซึ่งการประกันภัยในปัจจุบันมีตั้งแต่หลักสิบบาทไปจนถึง ราคาหลายหมื่นบาทหรือสูงกว่านั้น เราจึงควรพิจารณารูปแบบ ข้อกำหนด และความสามารถในการชำระเบี้ยประกันภัยควบคู่ไปกับความต้องการของตัวเองด้วย เพื่อไม่ให้การทำประกันภัยเป็นภาระทางการเงินในอนาคต อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันการชำระเบี้ยประกันภัยมีอยู่หลากหลายรูปแบบ เช่น ชำระเบี้ยประกันภัยแบบรายปี รายเดือน ราย 3 เดือน หรือราย 6 เดือน เป็นต้น ซึ่งทำให้เรามีความยืดหยุ่นในการเลือกซื้อกรมธรรม์ประกันภัยมากยิ่งขึ้น
- ต้องให้ข้อมูลตามจริงกับบริษัทประกันภัยเวลากรอกข้อมูลในใบคำขอเอาประกันภัย เพื่อให้บริษัทพิจารณารับประกันภัยได้ตรงกับความเป็นจริง และเมื่อเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดขึ้น ทำให้ไม่มีข้อโต้แย้งหรือข้อพิพาทในเรื่องข้อเท็จจริงสำหรับการให้ความคุ้มครองภายใต้กรมธรรม์ประกันภัยต่าง ๆ
- สภาผู้บริโภคแนะนำต่ออีกว่า ควรศึกษาช่องทางการจำหน่าย ช่องทางการให้บริการ และช่องทางการติดต่อของบริษัทประกันภัย ทุกวันนี้ช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันภัยมีความหลากหลายเพิ่มมากขึ้น เราสามารถเลือกซื้อประกันสุขภาพหรือประกันสะสมทรัพย์ได้ตามความสะดวก รวมถึงควรเปรียบเทียบและพิจารณาผลิตภัณฑ์ประกันภัยในแต่ละช่องทางที่อาจมีความแตกต่างกัน เนื่องจากการตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของแต่ละกลุ่มคนที่แตกต่างกันด้วย ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจทำประกันภัยควรสำรวจ และพิจารณาช่องทางการให้บริการของบริษัทประกันภัยแต่ละราย เพื่อความสะดวกในการติดต่อธุรกรรมต่าง ๆ ภายหลังการทำประกันภัยด้วย
- ควรหาข้อมูลเรื่องการบริการหลังการขายและข้อมูลความมั่นคงทางการเงินของบริษัทประกันภัย บริษัทประกันภัยแต่ละแห่งให้บริการหลังการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่แตกต่างกัน ผู้บริโภคจึงควรเปรียบเทียบและหาข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลลูกค้าและการให้บริการหลังการขายของแต่ละรายด้วย นอกจากนี้ ควรศึกษาข้อมูลความมั่นคงทางการเงินของบริษัทประกันภัยที่สนใจ โดยสามารถศึกษาข้อมูลดังกล่าวได้จากหลายช่องทาง รวมถึงเว็บไซต์ของบริษัทประกันภัยนั้น ๆ และเว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)
#สภาองค์กรของผู้บริโภค#ประกันภัย#ประกันสุขภาพ#ประกันโควิด19#ประกันชีวิต#ผู้บริโภค