สคบ. ตอบรับข้อเสนอสภาองค์กรของผู้บริโภค พร้อมผลักดันให้บริษัทรถยนต์ 8 ยี่ห้อ เรียกคืนรถยนต์ทุกคันที่ติดตั้งถุงลมนิรภัยยี่ห้อทาคาตะเข้าเปลี่ยนถุงลมใหม่เพื่อความปลอดภัย หลังมีผู้เสียชีวิตจากถุงลมยี่ห้อดังกล่าวจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ย้ำให้บริษัทรถยนต์ประชาสัมพันธ์เชิงรุกให้ผู้บริโภคทราบถึงอันตรายหากไม่นำมาเปลี่ยน และต้องรายงานความคืบหน้าทุกเดือน
จากการที่สภาองค์กรของผู้บริโภค (สอบ.) เรียกร้องให้บริษัทรถยนต์จำนวน 8 ยี่ห้อ เร่งเปลี่ยนถุงลมนิรภัยให้กับลูกค้า โดยเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา สภาองค์กรของผู้บริโภค ระบุในการแถลงข่าวว่าถุงลมนิรภัยยี่ห้อทาคาตะ (Takata) เป็นสินค้าที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งหลายประเทศทั่วโลกได้เรียกรถของลูกค้าคืนและเปลี่ยนถุงลมนิรภัยให้แล้ว
ขณะที่ในประเทศไทยยังเหลือรถยนต์กว่าหกแสนคันที่ยังไม่ได้รับการเปลี่ยนถุงลมนิรภัย ขณะเดียวกันยังพบผู้บริโภคร้องเรียนปัญหาเกี่ยวกับการเข้ารับการเปลี่ยนถุงลมนิรภัยเข้ามาหลายราย ที่ผ่านมาสภาองค์กรของผู้บริโภค ได้ส่งหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เพื่อเสนอให้แก้ไขปัญหา ‘สินค้าปลอดภัย’ โดยผลักดันให้รถยนต์ที่ติดตั้งถุงลมนิรภัยยี่ห้อดังกล่าว ต้องได้เปลี่ยนถุงลมนิรภัยใหม่เพื่อความปลอดภัยนั้น
วันนี้ (1 กันยายน 2565) อิฐบูรณ์ อ้นวงษา รองเลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวว่า คณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าและบริการ ของ สคบ. ได้พิจารณาและเห็นด้วยกับข้อเสนอของสภาองค์กรของผู้บริโภค ในประเด็นการเสนอให้ผู้ประกอบธุรกิจรถยนต์จำนวน 8 บริษัท
ได้แก่ 1) บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด 2) บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด 3) บริษัท โตโยค้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด 4) บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด 5) บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด 6) บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด 7) บริษัท ฟอร์ด เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด และ 8) บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด
เรียกคืนถุงลมนิรภัย ยี่ห้อทาคาตะ จากผู้บริโภค โดยให้ผู้ประกอบธุรกิจรถยนต์ดังกล่าวออกมาตรการประชาสัมพันธ์เชิงรุกเพื่อให้ผู้บริโภคที่มีรถยนต์อยู่ในข่ายต้องเปลี่ยนถุงลมนิรภัยยี่ห้อดังกล่าวได้ทราบถึงอันตรายหากไม่นำรถยนต์เข้ามาเปลี่ยน และทำรายละเอียดและขั้นตอนการดำเนินการเรียกคืนรถยนต์ที่ติดตั้งถุงลมนิรภัยยี่ห้อทาคาตะ รวมทั้งต้องรายงานผลการดำเนินการกับคณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยฯ ของ สคบ. ทุกเดือน
ทั้งนี้ ผู้บริโภคสามารถเข้าไปตรวจสอบว่ารถยนต์เข้าข่ายที่ต้องเปลี่ยนถุงลมนิรภัยหรือไม่ ได้ที่ www.checkairbag.com เว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบก หรือเว็บไซต์ tcc.or.th (เว็บไซต์ของสภาองค์กรของผู้บริโภค)
หรือนำรถยนต์เข้าไปตรวจสอบได้ที่ศูนย์บริการทุกสาขา หรือสามารถติดต่อสายด่วน 1584 ของกรมการขนส่งทางบก เพื่อสอบถามข้อมูลได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ หากพบว่ารถยนต์เข้าข่ายต้องเปลี่ยน สามารถติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าทางโทรศัพท์ (Call Center) ของแต่ละบริษัทรถยนต์ เพื่อนำเข้าไปเปลี่ยนถุงลมนิรภัยได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
อย่างไรก็ตาม หากพบปัญหาการถูกปฏิเสธไม่รับเปลี่ยนถุงลมนิรภัย หรือถูกเรียกเก็บค่าบริการ หรือพบปัญหาอื่น ๆ สามารถร้องเรียนไปยัง สคบ. ที่เบอร์สายด่วน 1166 และสามารถร้องเรียนออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ complaint.ocpb.go.th หรือ ร้องเรียนกับสภาองค์กรของผู้บริโภค ผ่านช่องทางออนไลน์ที่เว็บไซต์ tcc.or.th หรือโทรศัพท์ 02 239 1839 กด 1