ผู้บริโภคถูกบริษัทศรีสวัสดิ์ฯ ฟ้องอย่างไม่เป็นธรรม พร้อมยึดโฉนดที่ดิน สภาผู้บริโภครับช่วยสู้คดี ท้ายสุดจบที่ประนีประนอมกับบริษัท
สืบเนื่องจากสภาผู้บริโภคได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคหลายราย กรณีถูกบริษัท ศรีสวัสดิ์พาวเวอร์ 2014 จำกัด และบริษัทในเครือ เอารัดเอาเปรียบจากสัญญาไม่เป็นธรรม จากการที่ผู้บริโภคนำบ้าน ที่ดิน หรือรถยนต์เป็นหลักประกันเพื่อขอสินเชื่อกู้ยืมเงิน โดยเมื่อมีการทำสัญญากู้ยืมเงินแล้วบริษัทกลับไม่ส่งมอบสัญญาเงินกู้ หรือสัญญาคู่ฉบับให้ นอกจากนี้บางรายยังพบว่ามีการเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยไม่แจ้งให้ผู้กู้ให้ทราบก่อนทำสัญญานั้น
ล่าสุดสภาผู้บริโภคได้เข้าช่วยเหลือผู้บริโภครายหนึ่งที่ตกเป็นจำเลยจากการทำสัญญากู้เงินกับบริษัทศรีสวัสดิ์ฯ ต่อมาถูกบริษัทฟ้องร้องดำเนินคดี โดยนำสัญญากู้ยืมมาฟ้องให้ชำระหนี้ พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี แต่ข้อเท็จจริงแล้ว ผู้บริโภคถูกเรียกเก็บร้อยละ 24 ต่อปี และยังถูกยึดโฉนดที่ดินไว้เป็นหลักประกัน ด้านสภาผู้บริโภคได้ให้ความช่วยเหลือ ทั้งการจัดหาทนายความเพื่อฟ้องร้องดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญา การช่วยเหลือแก้ต่างต่อสู้คดีกรณีผู้บริโภคตกเป็นจำเลยและไกล่เกลี่ยประนอมข้อพิพาทให้ผู้บริโภคได้รับความเป็นธรรมมากที่สุด จนสุดท้ายบริษัทศรีสวัสดิ์ฯ ตกลงประนีประนอมยอมความและคืนโฉนดที่ดินให้กับผู้บริโภคเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคมีสิทธิที่จะได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 ไม่ว่าจะเป็นสิทธิที่จะได้รับข่าวสาร รวมทั้งคำพรรณนาคุณภาพที่ถูกต้องและเพียงพอเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ สิทธิที่จะเลือกซื้อสินค้าหรือรับบริการโดยความสมัครใจของผู้บริโภค และปราศจากการชักจูงใจอันไม่เป็นธรรม สิทธิที่จะได้รับสินค้าหรือบริการที่ปลอดภัย มีสภาพและคุณภาพได้มาตรฐานเหมาะสมแก่การใช้ สิทธิที่จะได้รับความเป็นธรรมในการทำสัญญา ได้แก่ สิทธิที่จะได้รับการคุ้มครองและชดใช้ค่าเสียหาย เมื่อมีการละเมิดสิทธิของผู้บริโภค
ชวนร้องเรียนเมื่อพบปัญหาสัญญากู้เงินไม่เป็นธรรม
ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับความคุ้มครองจากการถูกละเมิดสิทธิ สภาผู้บริโภคขอเชิญชวนผู้บริโภคที่พบปัญหาสัญญากู้เงินที่อาจถูกฟ้องต่อศาลหรือถูกยึดโฉนดที่ดิน แนะร้องเรียนมาที่สภาผู้บริโภคผ่านเว็บไซต์ ww.tcc.or.thอีเมล [email protected] หรือเบอร์โทร 1502 (ในวันเวลาทำการ วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 17.00 น.)