ช่วยผู้บริโภคได้เงินคืน จากการซื้อคอร์สเสริมความงาม

ผู้บริโภคร้อง คลินิกเสริมความงามรูดบัตรก่อนยินยอม ซ้ำเจอปัญหาหลังใช้บริการ สุดท้ายได้เงินคืนหลังร้องเรียนมาที่สภาผู้บริโภค

คลินิกเสริมความงาม

เมื่อเดือนกรกฎาคม 2567 มีผู้เสียหายร้องเรียนกับสภาผู้บริโภค กรณีได้ซื้อคอร์สบริการเสริมความงามกับคลินิกแห่งหนึ่ง ย่านพระราม 9 ขณะที่ยังไม่ได้ตอบตกลง มีพนักงานขายนำบัตรเครดิตไปรูดจ่ายค่าบริการซื้อคอร์ส โดยอ้างว่าราคาโปรโมชั่น จ่ายเพียง 100,000 บาท  จะได้รับคอร์สเลเซอร์กำจัด ขน รักแร้ แขน ขา และขาหนีบ รวมถึงโบท็อกซ์ลดริ้วรอย รวมมูลค่ากว่า 300,000 บาท

แต่เมื่อกลับถึงบ้านผู้เสียหายรู้สึกไม่สบายใจ จึงติดต่อคลินิกขอยกเลิกในส่วนที่ยังไม่ได้ใช้บริการ แต่กลับถูกปฏิเสธด้วยข้ออ้างต่าง ๆ  ว่า ยกเลิกไม่ได้ ส่งยอดไปแล้ว และแจ้งว่าต้องติดต่อทนายประจำคลินิก จึงจำใจเข้ารับบริการ เมื่อหลังจากเข้าบริการหัตถการครั้งที่ 2 แล้ว พบปัญหารูขุมขนอักเสบ และรอยดำคล้ำปรากฏบนผิวหนัง เมื่อสอบถามพนักงานกลับแจ้งว่าอาการเหล่านี้เป็นเรื่องปกติ  ซึ่งขัดแย้งกับที่คลินิกได้โฆษณาไว้ในเพจเฟซบุ๊ก

นอกจากนี้ อาการเหล่านี้ยังเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดเชื้อรา จนต้องเข้ารับการรักษา จึงพยายามถามชื่อของพนักงานที่ให้บริการเลเซอร์และฉีดหน้า เพื่อตรวจสอบใบประกอบวิชาชีพ แต่กลับถูกปฏิเสธอ้างเรื่องความเป็นส่วนตัว  เมื่อทบทวนสัญญาการใช้บริการอีกครั้ง ยังพบว่า มีหลายข้อที่ไม่เป็นไปธรรมกับผู้บริโภค

ผู้เสียหายจึงขอคำปรึกษากับสภาผู้บริโภค เจ้าหน้าที่รับเรื่องร้องเรียนแนะนำให้พบแพทย์ เพื่อขอใบรับรองแพทย์ และส่งหนังสือยกเลิกสัญญา นำส่งหนังสือยกเลิกสัญญาพร้อมใบรับรองแพทย์ เนื่องจากส่งผลกระทบต่อสุขภาพ

หลังจากนั้นคลินิกยอมคืนเงินให้โดยหักส่วนที่ใช้บริการไปแล้ว แต่เมื่อจะเซ็นสัญญาเพื่อรับเงินคืนจากทางคลินิกกลับพบว่า สัญญาระบุว่าจะมีค่าดำเนินการ 100% ของจำนวนที่ชำระ จึงได้คัดค้านและขอแก้ไขข้อกำหนดที่ไม่เป็นธรรม

ความคืบหน้าล่าสุด ช่วงเดือนสิงหาคม ผู้เสียหายแจ้งว่า ผู้ประกอบการคลินิกได้ยอมรับเงื่อนไข และคืนเงินให้จำนวน 75,000 บาท  พร้อมขอบคุณสภาผู้บริโภค อยากให้กรณีนี้เป็นอุทาหรณ์การลุกขึ้นมาปกป้องและใช้สิทธิผู้บริโภค หากไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการซื้อสินค้าและบริการ  

ทั้งนี้ ผู้บริโภคที่ถูกละเมิดสิทธิหรือถูกเอารัดเอาเปรียบ สามารถขอคำปรึกษา หรือร้องเรียนกับสภาผู้บริโภคได้ที่เบอร์ 1502 หรือร้องเรียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ tcc.or.th และสามารถร้องเรียนกับหน่วยงานประจำจังหวัดของสภาผู้บริโภค ทั้ง 19 จังหวัด โดยดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์  https://www.tcc.or.th/tcc-agency/