ในยุคที่ผู้บริโภคเข้าถึงการเดินทางด้วยสายการบินต้นทุนต่ำได้ง่ายขึ้น มีหลายสายการบินและหลายราคาให้เลือกเมื่อผู้บริโภคจองตั๋วโดยสาร แต่ด้วยสถานการณ์โรคระบาดที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัย ทำให้รัฐบาลประกาศห้ามการเดินทางในทุกระบบ แต่ผู้บริโภคกลับพบปัญหาว่า สายการบินไม่มีนโยบายยกเลิกการเดินทางหรือการคืนเงิน และไม่ได้รับความสะดวกในการติดต่อ ฯลฯ ไม่เพียงเท่านั้น จากสถานการณ์โรคระบาด ผู้คนให้ความนิยมกับการซื้อของออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชันมากขึ้น ผู้บริโภคไม่ต้องออกไปซื้อสินค้านอกบ้านก็สามารถเลือกซื้อสินค้าได้ เพียงไม่กี่วันของเหล่านั้นจะมาส่งถึงหน้าบ้าน แต่ในบางครั้งพบว่าสินค้าที่ซื้อมาไม่ตรงปก ไม่มีคุณภาพตามคำโฆษณา นอกจากนี้ ยังพบปัญหาการขนส่งล่าช้า ราคาแพง รวมถึงมาตรฐานสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ เช่น รถยนต์ชำรุดบกพร่อง ตลอดจนสินค้าที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งยังเป็นข้อถกเถียงในเรื่องของการคืนสินค้านั้น ๆ
คณะอนุกรรมการด้านสินค้าและบริการทั่วไปจึงทำการศึกษาต้นตอของปัญหาดังกล่าว เพื่อยื่นข้อเสนอแนะต่อการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค รวมถึงการจัดเวทีผลักดันเพื่อสร้างความตระหนักรู้แก่ผู้บริโภค ทั้งยังจัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังเตือนภัย สภาองค์กรของผู้บริโภค เพื่อเป็นตัวเลือกให้ผู้บริโภคเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องก่อนการตัดสินใจซื้อสินค้า
ข้อเสนอนโยบาย และมาตรการที่เกี่ยวข้อง
ข้อเสนอนโยบายและมาตรการแก้ไขปัญหาบริการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์
สถานการณ์ สภาองค์กรของผู้บริโภค ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคที่ประสบปัญหาจากบริการธุรกิจนำเที่ยวภายในและภายนอกราชอาณาจักรในช่วงตุลาคม 2565 – มกราคม 2567 รวมทั้งสิ้น 686 เรื่อง มีมูลค่าความเสียหายประมาณ 67 ล้านบาท โดยลักษณะปัญหาที่มีการร้องเรียน 3 อันดับแรก ได้แก่ 1) ปัญหาการยกเลิกการเดินทางท่องเที่ยวก่อนการเดินทาง และการยกเลิกที่พัก คิดเป็นร้อยละ 85.86 2) ปัญหาการยกเลิกบริการไม่ได้ คิดเป็นร้อยละ 5.10 3) ปัญหาการโฆษณาเสนอขายโปรแกรมทัวร์ที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด คิดเป็นร้อยละ 2.19 ซึ่งสร้างความเสียหายต่อผู้บริโภคและไม่มีการชดเชยเยียวยาความเสียหายต่อผู้บริโภคอย่างเป็นธรรม สถานการณ์ปัญหาภัยทุจริตทางการเงินที่เกิดจากบริการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์(ธุรกิจนำเที่ยว) ซึ่งสภาผู้บริโภคได้รับเรื่องร้องเรียนจากกรณีบริษัทนำเที่ยวในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งส่วนใหญ่ ยกเลิกทัวร์ท่องเที่ยว แต่บริษัทฯ ยังไม่คืนเงินให้แก่ผู้บริโภคและมีผู้เสียหายจำนวนหลายร้อยราย ซึ่งทำให้ผู้บริโภคได้รับผลกระทบและสูญเสียทรัพย์สินจำนวนมาก โดยบริษัทที่ถูกร้องเรียนสูงสุดลำดับที่หนึ่งคือ บริษัท อ้วน ผอม อะราวด์ เดอะ เวิลด์ จำกัด และอันดับที่สองคือ บริษัท บลูนาวี หัวหิน จำกัด การดำเนินงาน จากสถิติเรื่องร้องเรียนจากธุรกิจนำเที่ยว สภาผู้บริโภคพบว่า เกิดจากการที่ผู้ประกอบธุรกิจได้เปิดให้ผู้บริโภคเข้าทำสัญญาซื้อบ…
ข้อเสนอแนะเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคในการใช้บริการขนส่งพัสดุในรูปแบบเก็บเงินปลายทาง
สถานการณ์ จากการเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซ ที่มีการซื้อขายสินค้าบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย อาทิ เฟซบุ๊ก ไอจี ติ๊กต็อก และไลน์ ที่พัฒนารูปแบบการใช้งานช่วยให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าบนออนไลน์ได้ง่าย และสะดวกมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจขนส่งสินค้าแบบด่วนในประเทศไทยมีการเติบโตและแข่งขันสูงขึ้น มีผู้ให้บริการขนส่งทั้งภาครัฐและเอกชนรายใหม่เกิดขึ้น รวมถึงมีรูปแบบบริการส่งสินค้าที่ตอบสนองผู้บริโภคที่หลากหลาย โดยเฉพาะการส่งพัสดุเก็บเงินปลายทาง (COD) ซึ่งเป็นบริการส่งพัสดุที่เกิดขึ้นเพื่อลูกค้าที่ต้องการความมั่นใจในการสั่งซื้อสินค้า และไม่สะดวกโอนเงิน หรือใช้บัตรเครดิต ซึ่งผู้รับพัสดุจะชำระเงินค่าสินค้าก็ต่อเมื่อพนักงานของบริษัทขนส่งมาส่งสินค้าที่ปลายทางแล้วเท่านั้น อย่างไรก็ดี จากการติดตามสถานการณ์การละเมิดสิทธิผู้บริโภคในการซื้อขายสินค้าออนไลน์และการขนส่งพัสดุสินค้าของสภาองค์กรของผู้บริโภค (สภาผู้บริโภค) พบว่าในช่วงเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2564 ถึงมิถุนายน พ.ศ. 2566 สภาผู้บริโภคได้รับเรื่องร้องเรียนด้านสินค้าและบริการทั่วไปจากผู้บริโภคทั้งสิ้น 11,623 กรณี โดยมีกลุ่มปัญหาซื้อของไม่ได้ของ ส่งมอบสินค้าไม่ตรงตามที่ตกลง ไม่รับคืนหรือเปลี่ยนสินค้า ไม่คืนเงินให้กับผู้บริโภคมากถึง 8,719 กรณี หรือคิดเป็นร้อยละ 75 ของเรื่องร้องเรียนทั้งหมด โดยผู้บริโภคถูกละเมิดสิทธิแม้จะใช้วิธีการซื้อสินค้าออนไลน์ด้วยการให้ส่งพัสดุ…
ข้อเสนอมาตรการแก้ปัญหาการเรียกคืนถุงลมนิรภัยยี่ห้อทาคาตะในประเทศไทย
สถานการณ์ แม้ว่ากรมการขนส่งทางบก สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และบริษัทรถยนต์ได้ดำเนินมาตรการติดตามเรียกคืนถุงลมนิรภัยทาคาตะอย่างต่อเนื่อง แต่จากข้อมูลของสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ณ วันที่ 6 กันยายน 2566 เรียกคืนชุดสร้างแรงดันถุงลมเสริมความปลอดภัย (ถุงลมนิรภัย) ยี่ห้อทาคาตะ ในประเทศไทยพบเจอว่ามีรถยนต์อยู่ในข่ายต้องเปลี่ยน จำนวนทั้งสิ้น 1,660,341 คัน และดำเนินการเปลี่ยนไปแล้ว 1,084,579 คัน แต่ยังเหลือ 575,762 คัน ที่ยังไม่ได้ทำการเปลี่ยน ซึ่งก็นับเป็นจำนวนคงเหลืออีกไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 อย่างไรก็ตามการมีรถยนต์ที่เข้าข่ายต้องเปลี่ยนถุงลมนิรภัยใช้งานอยู่บนถนน มีแนวโน้มเป็นอันตรายทั้งต่อผู้ขับรถยนต์ และต่อผู้ร่วมใช้ถนน และพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 ได้มีข้อกำหนดเอาไว้ว่า รถที่จะนำมาใช้จะต้องมีสภาพมั่นคง แข็งแรง มีลักษณะ และขนาด ถูกต้องตามที่กำหนดไว้ เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับ ผู้โดยสาร ผู้ขับขี่รถคันอื่นๆ คนเดินถนน รวมทั้งสภาพแวดล้อมต่างๆ ดังนั้นจึงต้องมีการตรวจสอบรถให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน โดยรถที่ต้องตรวจสภาพรถก่อนเสียภาษีประจำปี ด้านการรณรงค์และประชาสัมพันธ์พบปัญหาว่าการรับรู้ถึงปัญหาถุงลมนิรภัยทาคาตะไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ และสื่อสารไม่ต่อเนื่อง ทำให้เจ้าของรถยนต์บางส่วนไม่รู้ถึงปัญหานี้ ดังนั้นการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางออนไลน์ ผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ การประชาสัมพันธ์ผ่าน…
ข้อเสนอต่อปัญหาการยกเลิกเที่ยวบิน ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
สถานการณ์ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (covid-19) ส่งผลให้เกิดปัญหาการยกเลิกเที่ยวบิน (Flight Cancellation) และมีผู้ที่ไม่ได้รับเงินคืนจากการซื้อตั๋วเครื่องบินล่วงหน้า จากสายการบินของไทย ทั้งในเส้นทางในประเทศและระหว่างประเทศเป็นจำนวนมาก ซึ่งมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.) ในฐานะหน่วยงานประจำจังหวัดกรุงเทพฯ สภาองค์กรของผู้บริโภค (สภาผู้บริโภค) รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคไม่น้อยกว่า 100 ราย การดำเนินงาน สภาผู้บริโภคมีข้อเสนอแนะถึงปลัดกระทรวงคมนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือน (กพท.) และคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อให้ปรับปรุงมาตรการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ใช้บริการสายการบินของไทยในเส้นทางการบินระหว่างประเทศ นอกจากนี้ คณะอนุกรรมการด้านสินค้าและบริการทั่วไป สภาผู้บริโภคประชุมหารือเรื่อง แนวทางการคุ้มครองผู้โดยสารในเส้นทางการบินภายในประเทศ และระหว่างประเทศ และเชิญผู้แทนจาก กพท. เป็นวิทยากรให้ข้อมูลและคำแนะนำเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้โดยสาร ที่เดินทางภายในประเทศและระหว่างประเทศ เมื่อวันศุกร์ที่ 21 มกราคม 2564 ผ่านระบบออนไลน์ โปรแกรมซูม (Zoom Meeting) ข้อเสนอของสภาองค์กรของผู้บริโภค ความคืบหน้า วันที่ 5 สิงหาคม 2565 หัวหน้ากองคุ้มครองสิทธิผู้ใช้บริการ ฝ่ายกำกับดูแลทางเศรษฐกิจ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) แจ้งต่อสำนักงานสภาองค์กรของผู้บริโภคเกี…
ข้อเสนอต่อปัญหามาตรฐานคุณภาพของหน้ากากอนามัยชนิดใช้ครั้งเดียว ระดับการป้องกันทั่วไป ระดับใช้ทางการแพทย์และศัลยกรรม
สถานการณ์ มีผู้บริโภคร้องเรียนไปยังคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ในประเด็นข้อสงสัยด้านประสิทธิภาพหน้ากากอนามัยที่ประชาชนใช้เพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาจำนวนผู้ติดเชื้อฯ ในระลอกที่ 3 มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ประชาชนทั่วไปจะปฏิบัติตามมาตรการของรัฐอย่างครบถ้วน เช่น สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ด้านนอก ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ การเว้นระยะห่าง ทำงานที่บ้าน จึงมีข้อสังเกตว่า หน้ากากอนามัยที่ใช้กันทั่วไป อาจไม่มีประสิทธิภาพที่ดีเพียงพอในการป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 จึงเสนอมายังสภาองค์กรของผู้บริโภค (สอบ.) เพื่อให้ดำเนินการทดสอบมาตรฐานหน้ากากอนามัยที่วางจำหน่ายทั่วไปในท้องตลาด การดำเนินงาน คณะอนุกรรมการด้านสินค้าและบริการทั่วไป สอบ. ร่วมกับเครือข่ายนักวิชาการเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ดำเนินการสำรวจหน้ากากอนามัยแบบชนิดใช้ครั้งเดียว ตามข้อร้องเรียนจากผู้บริโภค ที่เกิดความไม่มั่นใจต่อคุณภาพในการป้องกันโรคของหน้ากากอนามัยชนิดใช้ครั้งเดียว โดยได้จัดเก็บตัวอย่างเพื่อดำเนินการทดสอบคุณภาพมาตรฐานของหน้ากากอนามัยที่วางจำหน่ายช่วงเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม พ.ศ.2564 และจัดเก็บข้อมูลการแสดงฉลากต่อผู้บริโภค จำนวน 60 ตัวอย่าง เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการกรอง อนุภาคขนาดเล็ก (Filter Efficiency) ทดสอบความสามารถใ…