สภาองค์กรของผู้บริโภค (สอบ.) ชวนผู้บริโภคดูข้อมูลก่อนเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้า หรือ รถ EV (Electric Vechicles) เพื่อเป็นทางเลือกก่อนตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้
- ควรเลือกรถยนต์ไฟฟ้า ที่มีปลั๊กชาร์จที่ตัวรถเป็นมีลักษณะเป็น Type 2 ตามมาตรฐาน มอก. ซึ่งได้ใช้กับสถานีชาร์จ (สถานีอัดประจุ) ทั่ว ๆ ไปได้
- สายชาร์จที่ให้มาพร้อมกับรถยนต์ไฟฟ้า ควรใช้เฉพาะการชาร์จฉุกเฉิน หรือการชาร์จนอกสถานที่เท่านั้น และต้องเป็นไปตามมาตรฐาน มอก. (ขากลม 3 ขา)
- หากต้องการติดตั้งที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ติดอยู่กับผนัง (EV Wall Charger) ที่บ้านหรือที่จอดรถประจำ ต้องใช้ขนาดมิเตอร์ไฟฟ้าอย่างน้อย 30(100) A สำหรับรถ EV ตั้งแต่ 1 คัน และต้องติดตั้งสายไฟให้เหมาะสม โดยช่างผู้เชี่ยวชาญ อย่างไรก็ตาม การชาร์จที่บ้านต้องมีพื้นที่จอดรถที่เหมาะสมและสามารถติดตั้งเครื่องชาร์จไฟรถยนต์ได้ โดยต้องมีการเดินระบบไฟที่เหมาะสม ตลอดจนพิจารณามิเตอร์ไฟฟ้าว่าสามารถรองรับการชาร์จรถไฟฟ้าและการทำงานของอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านได้หรือไม่ และแนะนำว่าควรเลือกเครื่องชาร์จไฟควรเลือกเป็นแบบติดผนัง (Wall Box) เนื่องจากมีความปลอดภัยกว่าเครื่องชาร์จแบบฉุกเฉิน (Emergency Charger)
- ควรศึกษาจำนวนสถานีชาร์จ และตำแหน่งที่ตั้งผ่านแอปพลิเคชันของรถที่เลือกซื้อ รวมถึงจำนวนของศูนย์บริการ
นอกจากข้อควรคำนึงที่ผู้บริโภคใช้เลือกซื้อรถโดยทั่วไปแล้ว ในการเลือกซื้อรถยานยนต์ไฟฟ้า ควรพิจารณาคุณสมบัติสำคัญของแบตเตอรี่เพิ่มเติม ได้แก่ ชนิดหรือประเภทแบตเตอรี่ แบตเตอรี่แต่ละประเภทคุณลักษณะที่ต่างกัน ควรศึกษาข้อเด่น ข้อด้อยของประเภทแบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาบนรถ รวมถึงขนาดและความจุของแบตเตอรี่ ซึ่งจะมีผลโดยตรงต่อระยะทางที่รถสามารถวิ่งได้ และที่สำคัญ คือ ควรเลือกให้เหมาะสมกับความต้องการใช้งาน หลายรายอาจจะเลือกซื้อรถที่มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ แม้ว่าจะทำให้ใช้รถวิ่งในไกลขึ้นต่อการชาร์จ แต่ก็ต้องใช้ในการชาร์จที่นานมากกว่า ดังนั้นจึงควรคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้ประกอบด้วย