ช่วงที่ผ่านมานี้ สภาผู้บริโภคได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคหลายรายที่ซื้อคอร์สเสริมความงามกับคลินิกต่าง ๆ แต่ใช้บริการไม่ได้ เพราะคลินิกเหล่านั้นประกาศปิดกิจการบ้าง ประกาศปรับปรุงชั่วคราว ติดต่อก็ไม่ได้สักช่องทาง …
เมื่อพบปัญหาในลักษณะนี้จนทำให้ไม่สามารถใช้บริการอีกต่อไปได้ ถือว่าผู้ให้บริการผิดสัญญาให้บริการและผู้บริโภคมีสิทธิที่จะบอกเลิกสัญญา รวมถึงการขอเงินคืนได้เต็มจำนวนตามสัดส่วนที่ยังไม่ได้ใช้บริการ
หากชำระค่าบริการด้วยบัตรเครดิตก็ยังมีสิทธิขอยกเลิกสัญญาและแจ้งปฏิเสธรายการใช้บัตรเครดิตกับธนาคารเจ้าของบัตรเครดิตได้ง่าย ๆ เพียง 2 ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นตอนแรก ทำหนังสือบอกเลิกสัญญา กับผู้ประกอบธุรกิจหรือสถานบริการที่ใช้บริการภายในระยะเวลา 45 วัน โดยการทำเป็นหนังสือขอยกเลิกการใช้บริการ ตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจบัตรเครดิตเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา ปี พ.ศ. 2542 ข้อ 3 (7)(ข)
ขั้นตอนที่สอง แจ้งปฏิเสธหรือทักท้วงรายการบัตรเครดิตกับธนาคารเจ้าของบัตร โดยแนบหลักฐานการปิดกิจการ , หนังสือบอกเลิกสัญญากับผู้ให้บริการ , หนังสือแจ้งขอปฏิเสธการชำระหนี้กับธนาคาร , แบบฟอร์มขอตรวจสอบ/ปฏิเสธการเรียกเก็บเงิน (ขอกับธนาคารเจ้าของบัตรเครดิต)
อย่างไรก็ตาม การทำหนังสือบอกเลิกสัญญาและการแจ้งปฏิเสธหรือทักท้วงรายการบัตรจะต้องทำให้เป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อเป็นหลักฐานอย่างชัดเจนหากมีการฟ้องคดีเกิดขึ้นภายหลัง
ทั้งนี้ หากผู้บริโภคได้ยกเลิกหนี้บัตรตามขั้นตอนครบถ้วนแล้วธนาคารเจ้าหนี้บัตรเครดิตจะมาเรียกเก็บเงินกับผู้บริโภคไม่ได้ และหากถูกเรียกเก็บเงินถือเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคและเป็นการใช้สิทธิไม่สุจริต
หากพบปัญหาถูกเรียกเก็บเงิน ทั้งที่ปฏิเสธรายการใช้บัตรไปแล้ว หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการซื้อหรือใช้บริการต่าง ๆ สามารถร้องเรียนกับสภาผู้บริโภคได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้
- ร้องเรียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ tcc.or.th คลิกลิงก์ https://crm.tcc.or.th/?entryPoint=Portal&action=complain#noopener%20noreferrer
- ไลน์ออฟฟิเชียล (Line Official) : @tccthailand คลิกลิงก์ https://lin.ee/uhDyO1U
- อินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก (Facebook Inbox) : สภาองค์กรของผู้บริโภค
- อีเมล : [email protected]
- โทรศัพท์ : 02 239 1839 กด 1, 081 134 9215 หรือ 081 134 9216