ไม่คิดว่ามันจะจบแบบนี้… แค่ต้องการเงินก้อนเล็ก ๆ มาหมุนชีวิต แต่กลับต้องเผชิญกับบัญชีถูกอายัด ถูกสอบสวนคดีฟอกเงิน และหนี้สินจากแอปกู้เงินเถื่อนที่ไม่มีวันจบ
ผู้บริโภครายนี้ไม่ใช่มิจฉาชีพ แต่กลับติดอยู่ในวังวนหนี้นอกระบบ เพียงเพราะความจำเป็นที่บีบให้ต้องหาทางออกเร่งด่วน ทั้งหมดเริ่มจากการค้นหาว่า “กู้เงินด่วน อนุมัติไว” และจบลงที่กับดักของแอปกู้เงินเถื่อน ที่ทำให้ชีวิตพังไม่เป็นท่า

เมื่อเงินในระบบไม่ถึงมือ เงินนอกระบบก็วิ่งเข้ามาเอง
เรื่องราวหลังจากนี้เป็นของผู้บริโภครายหนึ่งที่เข้ามาร้องเรียนกับสภาผู้บริโภค ที่ต้องการเงินหมุนเวียนในชีวิตประจำวัน ด้วยค่าใช้จ่ายที่มากกว่ารายรับ แต่เพราะเงื่อนไขสินเชื่อของสถาบันการเงินไม่ได้เปิดโอกาสให้คนที่ไม่มีหลักทรัพย์ ไม่มีสลิปเงินเดือน หรือคนที่มีภาระหนี้สูงอยู่แล้ว
เมื่อหันไปพึ่งในระบบไม่ได้ ผู้บริโภครายนี้จึงมองหาทางเลือกอื่น และพบกับโฆษณามากมายที่การันตีว่า อนุมัติไว ไม่ต้องใช้เอกสารให้ยุ่งยาก แค่โหลดแอปพลิเคชัน กรอกข้อมูล แล้วเงินจะเข้าบัญชีในเวลาไม่กี่นาที
“แค่ยืนยันตัวตน ก็ได้เงินใช้แล้ว” คำโฆษณาเหล่านี้ดูเหมือนจะช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น แต่เขาไม่รู้เลยว่ากำลังก้าวเข้าสู่กับดักของ แอปฯ กู้เงินเถื่อน ที่ไม่มีใครเคยหลุดพ้นไปได้ง่าย ๆ
เบื้องหลังการทำงานของแอปฯ กู้เงินเถื่อน
แอปฯ กู้เงินเถื่อนส่วนใหญ่ ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือคนที่ต้องการเงิน แต่ถูกออกแบบมาเพื่อขูดรีดและดึงคนให้ติดอยู่ในวังวนหนี้แบบถอนตัวไม่ขึ้น
เมื่อผู้บริโภคเริ่มโหลดแอปฯ และกรอกข้อมูล แอปฯ เหล่านี้จะขอสิทธิ์เข้าถึงโทรศัพท์ ตั้งแต่เข้าถึงรายชื่อติดต่อ รูปภาพ ข้อความ และแม้แต่ข้อมูลบัญชีโซเชียลมีเดีย นี่คืออาวุธที่พวกเขาใช้กดดันลูกหนี้ในภายหลัง
การอนุมัติเงินกู้นั้นรวดเร็ว เงินเข้าบัญชีภายในไม่กี่นาที โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่วงเงินที่ได้รับมักจะต่ำกว่าที่โฆษณาไว้เสมอ เช่น ถ้ากู้ 10,000 บาท แอปฯ อาจจะโอนให้แค่ 7,000 – 8,000 บาท โดยหักค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ยล่วงหน้าไปก่อนแล้ว ที่ร้ายกว่านั้นคือ เงื่อนไขการชำระคืน ระยะเวลาผ่อนชำระสั้นมาก แค่ 7 วัน หรือบางครั้งแค่ 5 วัน หากจ่ายไม่ทัน ดอกเบี้ยก็จะพุ่งขึ้นแบบทบต้นทบดอก จนกลายเป็นหนี้ก้อนโตที่ไม่มีวันหมด
วังวนที่ไม่มีวันจบของ ‘คนเป็นหนี้’
เมื่อผู้บริโภครายนี้เริ่มต้นด้วยการกู้เพียงเล็กน้อย และพยายามจ่ายคืนให้ตรงเวลา แต่เมื่อจ่ายคืน แอปฯ อื่น ๆ ก็แห่กันเข้ามาเสนอเงินกู้มากขึ้น และวงจรนี้ก็เริ่มต้นขึ้นโดยที่ไม่ทันตั้งตัว
“แรก ๆ ยังพอหมุนทันนะ แต่พอไป ๆ มา ๆ ดอกมันทบต้น จ่ายไปเท่าไรก็ไม่หมดสักที” เขาเล่า
เมื่อถึงวันที่ผู้บริโภคไม่มีเงินจ่าย แอปฯ เหล่านี้ก็เริ่มเปิดเผย “ธาตุแท้” พวกเขาจะโทรทวงหนี้วันละสิบ ๆ สาย ข่มขู่ ส่งข้อความด่า ประจานผ่านโซเชียลมีเดีย และแม้แต่โทรไปหาคนในรายชื่อติดต่อที่เคยเข้าถึงสิทธิ์
“เป็นหนี้ แต่ไม่ยอมจ่าย คนแบบนี้ต้องเอาไปประจาน” คือคำที่เพื่อน ๆ ญาติ ๆ ของเขาต้องร่วมโดนประจาน
อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภครายนี้พยายามดิ้นรน ขายทุกอย่างที่ขายได้เพื่อปิดหนี้ให้หมด แต่สิ่งที่ผู้บริโภคไม่รู้คือ… เมื่อปิดหนี้แอปฯ หนึ่ง ตัวแทนจากแอปฯ ใหม่ก็จะเสนอวงเงินให้เพิ่มขึ้น สุดท้าย ยอดหนี้ของผู้บริโภครายนี้พุ่งสูงถึง 1.5 ล้านบาท ดอกเบี้ยรวมเกือบ 2 ล้านบาท
จากผู้กู้เงิน สู่ผู้ต้องสงสัยคดีบัญชีม้า
วันหนึ่งผู้บริโภคคนดังกล่าวเติมน้ำมันเพื่อเดินทางไปทำงาน เมื่อโอนเงินจากแอปฯ ธนาคารก็ขึ้นข้อความ “ธุรกรรมของคุณถูกระงับ”
จึงรีบโทรหาธนาคารด้วยความกังวล และสิ่งที่ได้รับกลับมาคือข่าวร้ายที่ผู้บริโภคไม่เคยคาดคิด “บัญชีของคุณมีธุรกรรมที่เชื่อมโยงกับการฟอกเงิน” คำพูดสั้น ๆ แต่ทำให้แทบล้มทั้งยืน ไม่ใช่มิจฉาชีพ ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับอาชญากรรม แต่ทำไมบัญชีถึงถูกอายัด?
สิ่งที่ผู้บริโภครายดังกล่าวไม่รู้มาก่อนคือ กระบวนการทำงานของแอปฯ กู้เงินเถื่อนที่ใช้บริการนั้น แท้จริงแล้วเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการฟอกเงิน ทุกครั้งที่ผู้บริโภครับเงินกู้ และโอนเงินคืน มันไม่ได้เป็นแค่ธุรกรรมระหว่างผู้บริโภคกับเจ้าหนี้เถื่อน แต่เป็นการส่งผ่านเงินที่อาจมาจากแหล่งที่ผิดกฎหมายต่อไปยังบัญชีอื่น ๆ โดยไม่รู้ตัว
นี่คือสิ่งที่ทำให้ผู้บริโภครายนี้ต้องกลายเป็น “บัญชีม้า” โดยที่ไม่ได้สมัครใจ เพราะการรับเงินที่กู้มาเป็นหนึ่งในจุดผ่านของเงินเหล่านั้น เมื่อมีการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ธนาคารจึงพบว่าบัญชีเกี่ยวข้องกับธุรกรรมต้องสงสัย และตัดสินใจอายัดทันที
อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภครายนี้พยายามอธิบายกับเจ้าหน้าที่ธนาคารว่า เป็นแค่ผู้กู้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน แต่การปลดอายัดบัญชีไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเมื่อตำรวจเข้ามาตรวจสอบ พวกเขาจะมองจากเส้นทางการเงินก่อน และในทางกฎหมาย ซึ่งผู้บริโภคอาจถูกดำเนินคดีฐานมีส่วนร่วมในกระบวนการฟอกเงิน ทั้งที่เป็นเพียงเหยื่อของระบบนี้
บทเรียนราคาแพง และคำเตือนถึงผู้บริโภค
ผู้บริโภครายนี้ ระบุว่า อยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับทุกคนที่กำลังคิดจะกู้เงินจากแอปฯ ที่ไม่ได้รับอนุญาต อย่าคิดว่า “แค่กู้เล็ก ๆ น้อย ๆ” แล้วจะไม่เป็นไร เพราะมันสามารถนำไปสู่ปัญหาที่ใหญ่กว่าที่คุณคาดคิด ไม่ว่าจะเป็น
- หนี้จากแอปฯ กู้เงินเถื่อนจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว – ดอกเบี้ยสูงมาก และระยะเวลาชำระสั้น ทำให้ต้องกู้เพิ่มเพื่อมาจ่ายหนี้เก่า
- อาจถูกข่มขู่และคุกคาม – การทวงหนี้ของแอปฯ เถื่อนมักจะรุนแรง มีการส่งข้อความขู่หรือประจานในโซเชียล
- เสี่ยงกลายเป็นบัญชีม้าโดยไม่รู้ตัว – การรับและโอนเงินให้แอปฯ กู้เงินเถื่อนอาจทำให้ถูกจับตาจากธนาคารและกลายเป็นผู้ต้องสงสัยคดีฟอกเงินหากคุณหรือคนรอบข้างกำลังเผชิญปัญหาหนี้นอกระบบ อย่าปล่อยให้ตัวเองติดอยู่ในวังวนนี้เพียงลำพัง สามารถเข้ามาขอคำแนะนำจากหน่วยงานที่ช่วยเหลือผู้บริโภค เช่น สภาผู้บริโภค ผ่านเบอร์ 1502 หรือออนไลน์ผ่านเว็บไซต์สภาองค์กรของผู้บริโภค หรือหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง
“หวังว่าเรื่องราวนี้จะช่วยเตือนสติและทำให้ทุกคนระวังก่อนตัดสินใจเข้าไปเกี่ยวข้องกับแอปฯ กู้เงินเถื่อน” ผู้บริโภค ระบุทิ้งท้าย
ทั้งนี้ เรื่องราวลักษณะนี้ไม่ใช่เคสแรก และแน่นอนว่าไม่ใช่เคสสุดท้าย สภาผู้บริโภค ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับแอปฯ กู้เงินเถื่อนและบัญชีม้าอย่างต่อเนื่อง หลายคนที่ตกเป็นเหยื่อ ไม่ได้รู้เลยว่าเพียงแค่การกู้เงินไม่กี่พันบาท อาจพาไปสู่ปัญหาทางกฎหมายที่ใหญ่เกินกว่าที่จะรับมือได้ หากใครได้รับความเสียหาย ร้องเรียนกับสภาผู้บริโภคทันที