ใครเคยเจอปัญหา ถูกเรียกเก็บค่าบริการข้อความสั้น เอสเอ็มเอส โดยที่ไม่ได้สมัคร หรือสมัครโดยไม่รู้ตัวบ้าง หรือที่เรียกว่า “เอสเอ็มเอสกินตังค์” หากเจอเช่นนี้ ผู้บริโภคมีสิทธิเรียกร้องให้บริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ และบริษัทฯ ต้องคืนเงินให้ผู้บริโภคครบทุกบาท ทุกสตางค์ พร้อมการชดเชยเยียวยาความเสียหาย
ผู้บริโภคท่านหนึ่งเติมเงินโทรศัพท์มือถือเพื่อสมัครใช้บริการอินเตอร์เน็ตของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) แต่กลับใช้ไม่ได้เพราะเงินที่เติมไปกลับถูก “เอสเอ็มเอสกินตังค์” ดูดไปใช้จนหมด โดยที่ไม่ได้สมัครใช้บริการแต่อย่างใด
“เราใช้บริการอินเทอร์เน็ตในโทรศัพท์ของทรูอยู่ ซึ่งโดยปกติจะมีการตัดเงินค่าบริการทุกเดือน เราเลยเติมเงินไว้ในโทรศัพท์ 300 บาท เพื่อให้พอสำหรับค่าบริการอินเทอร์เน็ตประมาณ 3 เดือน แต่ปรากฎว่าเมื่อถึงรอบที่ต้องตัดเงินค่าอินเทอร์เน็ต เราไม่สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ เมื่อเข้าไปตรวจสอบยอดเงินคงเหลือจึงพบว่ามีเอสเอ็มเอสที่ถูกส่งมาโดยที่เราไม่ได้สมัคร และทุกครั้งที่ได้รับเอสเอ็นมเอสนี้จะถูกหักเงินครั้งละ 5 บาท” ผู้บริโภคระบุเพิ่มเติม
ข้อความสั้นที่ผู้บริโภคได้รับมาจาก 2 แหล่ง Health Tips และ Horo Key จำนวนรวมกว่า 60 ข้อความ ถูกหักเงินไป 300 บาท ตามจำนวนที่ได้เติมเงินไว้ หากผู้บริโภคเติมเงินไว้มากกว่านั้น อาจถูกหักมากกว่านั้นก็เป็นได้ ทั้งนี้ ยังพบผู้เสียหายอีกจำนวนมากที่ใช้บริการค่ายมือถือบริษัท ทรู ถูกเรียกเก็บบริการข้อความสั้นดังกล่าว โดยไม่ได้สมัครใช้งาน
เมื่อทราบเรื่องผู้บริโภคได้ติดต่อไปที่คอลเซนเตอร์ของ บริษัทฯ เพื่อขอยกเลิกข้อความสั้น และขอคืนเงิน แต่พนักงานแจ้งว่า ข้อความสั้นนั้นถูกตัดเงินโดยระบบอัตโนมัติ จึงไม่สามารถคืนเงินให้ได้ แต่ผู้บริโภคยืนยันว่าบริษัทฯ ต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น บริษัทฯ จึงแจ้งว่าจะจ่ายคืนให้ 100 บาท ซึ่งไม่ครบตามจำนวนที่เสียไป ถือเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค
“เมื่อได้ยินว่าบริษัททรูจะคืนเงินเพียง 100 บาท จึงไม่ยอมเพราะเราเสียเงินไปโดยที่เราไม่ได้ตกลงเอง เป็นความผิดของบริษัทฯ ที่ไม่คัดกรองข้อความให้ลูกค้า ต่อมาค่ายจึงยอมชดใช้ให้เต็มจำนวนแต่ต้องใช้เวลาดำเนินการ 7 วัน คำถามคือระหว่าง 7 วันนั้นหากเราต้องการใช้อินเทอร์เน็ตจะต้องทำอย่างไร เติมเงินเข้าไปใหม่อีกอย่างนั้นหรือ จึงขอให้ค่ายชดเชยเน็ตตามระยะเวลา 7 วัน ที่เสียไป แต่สุดท้ายบริษัทก็ชดเชยคืนเงินให้เต็มจำนวนได้ภายใน 24 ชั่วโมง” ผู้บริโภคกล่าว
ทั้งนี้ ผู้บริโภคได้แนะนำเพื่อเตือนภัยคนอื่น ๆ ก่อนจ่ายบิลค่าโทรศัพท์อย่าลืมตรวจสอบจำนวนเงินที่ต้องจ่าย ส่วนคนที่เติมเงินต้องคอยตรวจสอบยอดเงินคงเหลือ เพื่อเช็กว่าโดนหักเงินไปกับบริการอื่นที่ไม่ได้สมัครหรือไม่ หากเจอปัญหาเช่นนี้ ผู้บริโภคต้องได้รับเงินคืนเต็มจำนวนที่เสียไป และต้องได้รับการเยียวยาความเสียหายที่ได้รับ
นอกจากนี้ ผู้บริโภคได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับการคิดค่าบริการเมื่อต้องโทรศัพท์ติดต่อกับคอลเซ็นเตอร์ของค่ายโทรศัพท์มือถือ โดยตั้งคำถามว่าเหตุใดจึงมีการเรียกเก็บค่าบริการครั้งล่ะ 3 บาท ทั้งที่ควรเป็นการบริการฟรี เพราะผู้บริโภคได้รับปัญหาจากการบริการของบริษัท
สำหรับผู้บริโภคที่อยากตรวจสอบว่าตัวเองได้สมัครบริการข้อความสั้นที่ไม่ต้องการหรือไม่ หรือต้องการยกเลิกข้อความสั้นดังกล่าวสามารถตรวจสอบหรือยกเลิกได้ด้วยตัวเองโดยการกด *137 โทรออก และหากได้รับความเสียหายอย่าลืมติดต่อค่ายโทรศัพท์มือถือเพื่อขอให้ชดเชยค่าบริการที่เสียไปด้วย
ทั้งนี้ ปัญหาการถูกเรียกเก็บค่าบริการโดยที่ไม่ได้สมัคร ถือเป็นการใช้บริการโทรคมนาคมโดยผู้บริโภคไม่ประสงค์จะใช้บริการนั้น หรือเป็นเหตุให้ผู้บริโภคต้องรับภาระค่าบริการที่เพิ่มขึ้น หากไม่ชดใช้คืนทุกบาท ทุกสตางค์ ถือเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค หากผู้บริโภคไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกรณีเช่นนี้ สามารถร้องเรียนมาที่สภาผู้บริโภค ตามช่องทางดังต่อไปนี้
• ร้องเรียนออนไลน์ คลิกลิงก์ https://crm.tcc.or.th/?entryPoint=Portal&action=complain#noopener%20noreferrer
• ไลน์ออฟฟิเชียล (Line Official) : @tccthailand หรือคลิกลิงก์ https://lin.ee/uhDyO1U
• อีเมล : complaint@tcc.or.th
• โทรศัพท์ : 02 239 1839 กด 1
• อินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก (Facebook Inbox) : สภาองค์กรของผู้บริโภค