Getting your Trinity Audio player ready... |

ถูกดูดเงินจากบัตรเครดิตกว่า 1 แสน โดนบัตรกรุงไทยฯ ฟ้อง แต่ศาลแขวงขอนแก่นยกฟ้อง! ชี้ผู้บริโภคไม่ต้องรับผิดชอบเพราะไม่ได้ก่อหนี้เอง
จินตนา ศรีนุเดช หัวหน้าหน่วยงานประจำจังหวัด สภาผู้บริโภค เปิดเผยว่า หน่วยงานฯ ได้ช่วยเหลือด้านคดีความหลังจากได้รับเรื่องร้องจากผู้บริโภคที่ถูกดูดเงินในบัตรเครดิต โดยมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าแจ้งให้เปลี่ยนมิเตอร์ไฟฟ้าเป็นระบบดิจิทัลและหลอกให้ติดตั้งแอปพลิเคชันปลอมที่สามารถเข้าควบคุมโทรศัพท์มือถือและแอปฯ บัตรเครดิตจากระยะไกล ส่งผลให้มิจฉาชีพสามารถถอนเงินสดจากแอปฯ บัตรเครดิตไปโดยที่เจ้าของบัญชีไม่รู้ตัว เมื่อทราบว่าถูกดูดเงิน ผู้บริโภครีบแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น และติดต่อบัตรกรุงไทยเพื่อยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้ทำธุรกรรมเอง
อย่างไรก็ตาม ต่อมาบริษัทบัตรเครดิตกลับยื่นฟ้องผู้บริโภคให้ชำระหนี้จำนวน 100,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย ต่อมาศาลแขวงขอนแก่นได้มีคำพิพากษายกฟ้อง กรณีบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ฟ้องผู้บริโภครายหนึ่งชำระหนี้จำนวน 113,263.99 บาท เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
ด้าน สุรกิจ สิงหะพล เจ้าหน้าที่กฎหมายและคดี สภาผู้บริโภค ได้กล่าวถึง เหตุผลในการยกฟ้องผู้บริโภคอาจสรุปได้ว่า 1) หลังจากเกิดเหตุผู้บริโภครีบแจ้งความที่สถานีตำรวจว่าถูกหลอกลวง อาจยืนยันได้ว่าผู้บริโภคได้รีบดำเนินการเมื่อทราบเหตุ 2) ผู้บริโภคอาจถูกขโมยรหัสลับเฉพาะบุคคล (PIN) ผ่านเครื่องมือควบคุมโทรศัพท์เคลื่อนที่ระยะไกล และผู้บริโภคไม่ได้ยินยอมที่จะให้ข้อมูลนั้นกับบุคคลอื่น
ดังนั้น การทำธุรกรรมถอนเงินสดที่เกิดขึ้นจึงอาจไม่ได้เกิดขึ้นโดยที่ผู้บริโภคเป็นผู้ทำรายการด้วยตัวเอง พร้อมเปิดเผยสาระสำคัญของคำพิพากษา ว่า ศาลได้วินิจฉัยข้อตกลงและเงื่อนไขในคำขอเบิกสินเชื่อที่กำหนดให้ผู้บริโภคต้องรับผิดชอบในธุรกรรมผ่านอิเล็กทรอนิกส์ที่มีการใช้รหัสประจำตัวของผู้ให้บริการทุกกรณี เป็นข้อตกลงและเงื่อนไขที่ทำให้ผู้บริโภคเสียเปรียบเกินสมควรอันเป็นข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม กับเมื่อผู้บริโภคแจ้งเหตุความเสียหายให้บัตรกรุงไทยและร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนโดยมีหลักฐานยืนยันแล้วจึงเชื่อได้ว่าผู้บริโภคไม่ได้เป็นผู้เบิกถอนเงินสดด้วยตนเอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ศาลเชียงใหม่ยกฟ้อง! กรณีไม่จ่ายหนี้บัตรเครดิต หลังผู้บริโภคโดนดูดเงิน
- ชนะคดี! ผู้บริโภคถูกแบงก์ฟ้อง โดนหลอกดูดเงินบัตรเครดิต
“ในคดีนี้ศาลได้พิจารณาว่าผู้บริโภคไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมดังกล่าวและไม่ควรต้องรับผิดชอบหนี้ที่เกิดจากการกระทำของมิจฉาชีพ จึงมีคำพิพากษายกฟ้อง หมายความว่า ผู้บริโภคไม่ต้องชำระหนี้ตามที่บริษัทบัตรกรุงไทยฯ ฟ้องร้อง ซึ่งถือเป็นการยืนยันหลักการสำคัญว่าหนี้ที่ไม่ได้เกิดจากการกระทำของผู้บริโภคเอง และธุรกิจไม่ควรนำมาฟ้องร้องบังคับให้ผู้บริโภคชำระหนี้” เจ้าหน้าที่ฝ่ายคุ้มครองฯ สภาผู้บริโภค ระบุ
สำหรับผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายในลักษณะเดียวกัน สภาผู้บริโภคแนะนำว่าให้แจ้งความลงบันทึกประจำวันและแจ้งให้บัตรเครดิตทราบทันทีหากถูกตัดเงินโดยที่ผู้บริโภคไม่ได้ทำรายการด้วยตัวเอง และหากถูกฟ้องร้องไม่ควรไปศาลโดยไม่มีทนายความและไม่ควรทำสัญญายอมรับผิดโดยเด็ดขาด เพราะหนี้ที่เกิดขึ้นอาจมีข้อต่อสู้ทางกฎหมายที่สามารถทำให้ไม่ต้องรับผิดหรือรับผิดน้อยลงได้ การยอมชำระหนี้ไปแล้วอาจทำให้แก้ไขได้ยาก ดังนั้น หากได้รับหมายศาลหรือคำฟ้อง ควรรีบปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเพื่อปกป้องสิทธิของตนเอง หรือขอคำปรึกษากับสภาผู้บริโภค ที่เบอร์ 1502 หรือร้องเรียนออนไลน์ผ่าน เว็บไซต์สภาผู้บริโภค