เสริมศักยภาพคุ้มครองผู้บริโภค จับมือกับอิศราอบรมนักข่าวภาคกลาง

เมื่อวันที่ 24 – 25 กุมภาพันธ์ 2566 สภาองค์กรของผู้บริโภค ร่วมกับสถาบันอิศรา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย จัดอบรมพัฒนาศักยภาพผู้สื่อข่าว ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ครั้งที่ 3 ภาคกลาง ที่โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น โดยมีผู้เข้าร่วมอบรมกว่า 50 คน ไม่ว่าจะเป็นสื่อมวลชน นักจัดรายการวิทยุ และสมาชิกของสภาองค์กรของผู้บริโภค เพื่อให้ความรู้ สร้างความเข้าใจ สร้างทักษะในการคิดประเด็น รวมถึงการให้ความรู้เกี่ยวกับเทคนิคในการสืบค้นข้อมูล การนำเสนอ การผลิตสื่อเผยแพร่เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค อีกทั้งเพื่อให้สื่อมวลชนนำเสนอข่าวในเชิงสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกลุ่มต่าง ๆ

สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวว่า การคุ้มครองผู้บริโภคจะประสบความสำเร็จได้ต้องอาศัยสื่อมวลชนเป็นตัวกระบอกเสียงในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและเตือนภัยปัญหาผู้บริโภค เพื่อให้ผู้บริโภคมีข้อมูลที่มากพอที่จะนำไปใช้ปกป้องสิทธิผู้บริโภคเพื่อคุ้มครองตัวเองจากการถูกเอารัดเอาเปรียบต่าง ๆ ซึ่งการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคเป็นหนึ่งในภาระกิจของสภาผู้บริโภคตาม พ.ร.บ.การจัดตั้งสภาองค์กรของผู้บริโภค พ.ศ. 2562

“การคุ้มครองผู้บริโภคเป็นวัฒนธรรมใหม่และเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย โดยเฉพาะภาคธุรกิจที่อาจจะมองว่าการคุ้มครองผู้บริโภคเป็นอุปสรรค แต่ในความเป็นจริงนั้นกลับเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคและทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการประกอบธุรกิจที่ดีขึ้นได้” สารี กล่าวและว่า การทำงานของสื่อมวลชนด้านข้อมูลเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคจะมีส่วนดีทั้งต่อผู้บริโภค และผู้ประกอบการให้มีมาตรฐานมากยิ่งขึ้น

ด้าน นันท์นภัส ด่านชัยสิทธิ์ ศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภค จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ที่ผ่านมาศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภคฯ ได้ทำงานคุ้มครองผู้บริโภคในหลากหลายประเด็น ทั้งการให้คำปรึกษา คำแนะนำ รวมถึงช่วยเหลือผู้บริโภคให้ได้รับสิทธิตามที่ควรจะได้รับ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นการถูกเรียกเก็บค่าใช้จ่ายกรณีที่เข้าไปใช้สิทธิการรักษาพยาบาล 30 บาทหรือประเด็นการช่วยเหลือจนผู้บริโภคได้รับสินค้าที่ดีขึ้นจากการถูกเอารัดเอาเปรียบ กรณีซื้อรถมือสองแต่ใช้ไปได้ไม่กี่วันก็พัง เป็นต้น ซึ่งการอบรมพัฒนาศักยภาพผู้สื่อข่าวด้านการคุ้มครองผู้บริโภคครั้งนี้ที่มีการสอนคิดประเด็นข่าว สอนเทคนิคการตัดต่อวิดีโอ การทำอินโฟกราฟิก เป็นสิ่งที่มีประโยชน์และสามารถนำความรู้จากการอบรมไปต่อยอดได้

อาทิ ได้เรียนรู้การทำประเด็นปัญหาผู้บริโภคในพื้นที่ให้มีความน่าสนใจ มีการเล่าปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน หรือการสื่อสารประเด็นปัญหาผู้บริโภคในแต่ละช่องทางได้เหมาะสมยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ในการอบรมพัฒนาศักยภาพผู้สื่อข่าวฯ ที่มีสื่อมวลชนในภาคกลางเข้าร่วมด้วยนั้นทำให้เห็นทิศทางในอนาคตที่จะทำงานร่วมกันในการนำเสนอปัญหา เผยแพร่ข้อมูลความรู้ให้กับผู้บริโภค เนื่องจากสื่อมวลชนเป็นกำลังสำคัญที่เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยคุ้มครองผู้บริโภคได้ ซึ่งหากสื่อมวลชนเข้าใจการคุ้มครองผู้บริโภคจะทำให้สามารถสื่อสาร เตือนภัย ให้ความรู้ผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี เข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรง รวดเร็ว

“ขณะนี้การซื้อขายออนไลน์เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ปัญหาที่ตามมาก็มากขึ้นด้วย คนถูกหลอกลวง โดนโกงกันมาก ดังนั้น การสื่อสารความรู้ เตือนภัยผ่านช่องทางที่หลากหลายจะทำให้ผู้บริโภคมีความรู้เพื่อคุ้มครองตัวเองได้ทันท่วงที และยังเป็นวิธีที่ดีกว่าการให้ผู้บริโภคต้องไปเผชิญปัญหาและต้องมานั่งแก้ไขปัญหาในภายหลัง” นันท์นภัส กล่าว

ขณะที่ กิติ์ดนัย ไชยนุรัตน์ ผู้สื่อข่าวจากเว็บไซต์ข่าว 77kaoded.com ระบุว่า ภัยออนไลน์อยู่ใกล้ตัวของทุกคน ทุกวัน และสามารถตกเป็นเหยื่อได้ตลอดเวลา เพราะกลุ่มมิจฉาชีพมีการพัฒนาศักยภาพ หาวิธีการมาหลอกลวงอยู่อย่างต่อเนื่อง ดังนั้น จึงเห็นว่าการคุ้มครองผู้บริโภคจึงมีบทบาทและมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพื่อทำให้ผู้บริโภครู้เท่าทันภัยต่าง ๆ ซึ่งการได้เข้าร่วมอบรมพัฒนาศักยภาพผู้สื่อข่าวฯ ได้รับประโยชน์และได้รับความรู้เพิ่มขึ้นมาก ทั้งเทคนิคการทำข่าว การตัดต่อและการทำอินโฟกราฟิก สิทธิผู้บริโภค รวมถึงข้อกฎหมายที่ควรทราบ

“ขณะที่ทำงานเป็นสื่อมวลชนนั้นก็มีผู้ที่เข้ามาหาเพื่อร้องเรียน ผู้ที่มาขอความช่วยเหลือจากการที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมอยู่ตลอดเวลา การที่ได้เข้ามาอบรมเพิ่มพูนความรู้และศักยภาพอีกนั้นได้รับประโยชน์มากขึ้นไปอีก และหลังจากนี้จะทำหน้าที่นำเสนอข่าวสาร เตือนภัยเพื่อช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนในทุกกรณี” กิติ์ดนัย ระบุ

---

ทั้งนี้ การจัดอบรมพัฒนาศักยภาพผู้สื่อข่าว ด้านการคุ้มครองผู้บริโภคดังกล่าวจะมีการจัดอบรมครั้งสุดท้ายที่ภาคใต้ ในกลางเดือนมีนาคม 2566 ที่จะถึงนี้