หน่วยงานประจำจังหวัดร้อยเอ็ด สภาองค์กรของผู้บริโภค ช่วยเจรจาไกล่เกลี่ยสำเร็จ หลังผู้บริโภคร้องอู่ซ่อมรถไม่แจ้งราคา-รายละเอียดให้ก่อนซ่อม แนะผู้บริโภคที่จะซ่อมรถที่อู่ต้องติดตามและพูดคุยรายละเอียดทุกขั้นตอน พร้อมเก็บหลักฐานใบรับงาน-ใบรายการซ่อม ไว้ทุกครั้ง
วันนี้ (19 ธันวาคม 2565) ไพบูลย์ ผิวไธสง เจ้าหน้าที่คุ้มครองสิทธิ รับเรื่องร้องเรียน และสนับสนุนงานคุ้มครองผู้บริโภค ประจำหน่วยงานประจำจังหวัดร้อยเอ็ด สภาองค์กรของผู้บริโภค ระบุว่า เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา หน่วยงานประจำจังหวัดร้อยเอ็ดได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภครายหนึ่งที่นำรถยนต์เข้าไปซ่อมที่อู่รถยนต์แห่งหนึ่ง และเมื่อซ่อมเสร็จได้แจ้งค่าซ่อมรถยนต์ในราคารวม 26,840 บาท ซึ่งก่อนหน้านั้นอู่ซ่อมรถดังกล่าวไม่ได้แจ้งรายการซ่อม รวมถึงยังไม่ได้แจ้งราคาให้ผู้บริโภคทราบก่อน
ดังนั้น ผู้บริโภครายนี้จึงยังไม่ได้จ่ายค่าซ่อมรถยนต์ทั้งหมดให้กับอู่ซ่อมรถ แต่ก่อนหน้านี้มีการจ่ายครั้งแรกไปแล้ว 6,500 บาท ส่วนค่าใช้จ่ายที่เหลือนั้นต้องการให้อู่ซ่อมรถชี้แจงรายละเอียดและพิจารณาราคาค่าซ่อมให้ชัดเจน แต่สุดท้ายยังไม่สามารถตกลงกันได้ ผู้บริโภครายนี้จึงร้องเรียนมายังหน่วยงานประจำจังหวัดร้อยเอ็ด สภาองค์กรของผู้บริโภค
ไพบูลย์ กล่าวว่า จากนั้นเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2565 หน่วยงานประจำจังหวัดร้อยเอ็ดได้รวบรวมเอกสารและข้อเท็จจริง ลงพื้นที่เจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาทที่เกิดขึ้น โดยอู่ซ่อมรถระบุว่าก่อนที่จะรื้อรถยนต์เพื่อซ่อมได้แจ้งราคาและรายละเอียดให้กับพ่อและแม่ของเจ้าของรถแล้ว โดยที่ทั้งสองได้ตัดสินใจแทนลูกสาว (ซึ่งเป็นเจ้าของรถและผู้ร้องเรียนปัญหานี้) ให้ซ่อมให้เสร็จเพื่อจะได้นำรถไปใช้ โดยที่ไม่ได้แจ้งเจ้าของรถโดยตรง ดังนั้น จึงทำให้ผู้บริโภครายนี้เข้ามาร้องเรียนนั่นเอง
“สุดท้ายแล้วการเจรจาไกล่เกลี่ยครั้งนี้ประสบผลสำเร็จ ทั้งสองฝ่ายตกลงยินยอมและระงับข้อพิพาทต่อกันได้ ซึ่งผู้บริโภคที่เข้ามาร้องเรียนปัญหายินยอมรับรถคืนและยินยอมจ่ายค่าใช้จ่ายส่วนที่เหลือ ส่วนอู่ซ่อมรถยินยอมไม่เรียกร้องค่าซ่อมที่เหลืออื่น ๆ อีก” ไพบูลย์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ไพบูลย์แนะนำผู้บริโภคที่กำลังจะใช้บริการอู่ซ่อมรถเบื้องต้นว่า ควรติดตามและพูดคุยกับอู่ซ่อมรถให้ชัดเจนจนทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกันในทุกขั้นตอนและทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นราคาค่าซ่อม รวมถึงควรมีบันทึกข้อตกลง หรือใบรับงาน ใบรายการซ่อมทุกอย่างไว้เป็นหลักฐาน และที่สำคัญอู่ซ่อมรถควรต้องแจ้งให้เจ้าของรถทราบก่อนทุกครั้งถึงค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น หากมีนอกเหนือจากข้อตกลงข้างต้น เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีโอกาสเลือกและตัดสินใจก่อนทุกครั้งเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตามมา
นอกจากนี้ ธุรกิจซ่อมรถยนต์เป็นธุรกิจที่ถูกควบคุมรายการในหลักฐานการรับเงิน ตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา ที่ระบุให้ผู้ประกอบธุรกิจอู่ซ่อมรถต้องส่งมอบหลักฐานการรับเงินที่มีรายการและข้อความ ได้แก่
- ชื่อและที่อยู่ของผู้ประกอบธุรกิจและของผู้มีอำนาจออกหลักฐานการรับเงิน
- วัน เดือน ปี ที่ผู้บริโภคส่งมอบรถยนต์ให้ซ่อม และวัน เดือน ปี ที่ผู้บริโภครับมอบรถยนต์เมื่อซ่อมเสร็จ
- วัน เดือน ปี ที่รับเงินหรือค่าตอบแทนการให้บริการซ่อมรถยนต์
- รายละเอียดเกี่ยวกับยี่ห้อ รุ่น หมายเลขเครื่องยนต์ หมายเลขตัวถัง และหมายเลขทะเบียนของรถยนต์ที่ทำการซ่อม
- ระยะเวลาการใช้ของรถยนต์ ในวันที่รับมอบเพื่อซ่อมและในวันที่ซ่อมเสร็จ
- รายการที่ทำการซ่อม
- ราคาค่าบริการซ่อมรถยนต์ (ค่าแรง)
- กรณีที่มีการเปลี่ยนอะไหล่ ต้องระบุ รายการ ยี่ห้อ และสภาพของอะไหล่ที่เปลี่ยน และราคาอะไหล่
- ระยะเวลาหรือระยะทางสำหรับการรับประกันความชำรุดบกพร่องหรือคุณภาพงานซ่อม และการรับประกันอะไหล่ที่เปลี่ยน
- ลายมือชื่อของผู้มีอำนาจออกหลักฐานการรับเงินในเอกสารหลักฐานการรับเงิน หรือเอกสารแนบท้ายหลักฐานการรับเงินทั้งหมด และต้องไม่มีข้อความที่มีลักษณะหรือความหมายเป็นการยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดชอบของผู้ประกอบธุรกิจที่เกิดจากความจงใจหรือประมาทในการให้บริการซ่อมรถยนต์
ทั้งนี้ หากผู้บริโภคสงสัยว่าอาจถูกอู่ซ่อมรถเอาเปรียบ เช่น ใบเสร็จไม่แสดงชื่อผู้ประกอบการ หรือไม่แจ้งรายการสินค้าให้ครบถ้วน หรือมีการคิดค่าซ่อมที่สูงเกินควร สามารถนำเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ที่ใช้บริการมาร้องเรียนกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ที่เบอร์สายด่วน 1166 โดยหากผู้ประกอบธุรกิจอู่ซ่อมรถไม่ส่งมอบหลักฐานการซ่อมตามรายการที่กำหนดมาข้างต้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือสามารถเข้าไปขอคำปรึกษาหรือร้องเรียนกับหน่วยงานประจำจังหวัดร้อยเอ็ด สภาองค์กรของผู้บริโภค ได้ที่
- อินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก : หน่วยงานประจำจังหวัดร้อยเอ็ด สภาองค์กรของผู้บริโภค
- ร้องเรียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ tcc.or.th คลิกลิงก์ https://crm.tcc.or.th/portal/public
- ที่อยู่ : เลขที่ 687 หมู่ 16 ต.รอบเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด 45000
- โทรศัพท์ : 080 015 9440
#สภาองค์กรของผู้บริโภค #ผู้บริโภค