เส้นทางสู่มาตรฐานขององค์กรผู้บริโภค: ข้ามผ่านอุปสรรค สู่โอกาสใหม่

องค์กรผู้บริโภคในประเทศไทยยังคงเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการ การได้รับการยอมรับตามกฎหมาย หรือการทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้ประชาชน แม้หลายองค์กรจะมุ่งมั่นปกป้องสิทธิผู้บริโภค แต่กลับต้องเผชิญกับอุปสรรคสำคัญ เช่น การจดแจ้งตามมาตรฐาน การขาดแคลนทรัพยากร และความไม่แน่ใจในผลงานว่าจะเข้าหลักเกณฑ์คุ้มครองผู้บริโภคหรือไม่ ส่งผลให้หลายองค์กรยังไม่สามารถก้าวสู่การเป็นองค์กรผู้บริโภคที่ได้รับการยอมรับอย่างเต็มที่

เดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา สภาผู้บริโภคได้เปิดโอกาสให้องค์กรที่สนใจจากพื้นที่ภาคเหนือและภาคใต้ เข้าร่วมกิจกรรมภายใต้โครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งองค์กรผู้บริโภคเพื่อรักษาประโยชน์ของผู้บริโภคด้านสุขภาพ นำโดยนายวิทูรย์ บุตรสาระ ผู้รับผิดชอบโครงการ กิจกรรมนี้มุ่งเน้นให้ความรู้ คำปรึกษา และแนวทางการพัฒนาองค์กรให้ได้มาตรฐาน รวมถึงการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับหน่วยงานคุณภาพระดับจังหวัด เพื่อยกระดับการทำงานและสร้างความมั่นใจในการยื่นขอจดแจ้งตามกฎหมาย

กิจกรรมแรกเริ่มต้นด้วยการบรรยายจาก รศ.ดร.วรรณา ศรีวิริยานุภาพ ผู้จัดการแผนงานศูนย์วิชาการคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ (คคส.) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่มาให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับมาตรฐานและคุณภาพขององค์กรผู้บริโภค รวมถึงหลักเกณฑ์การประเมินคุณภาพขององค์กร ผู้เข้าร่วมงานได้รับความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับมาตรฐานและคุณภาพที่องค์กรผู้บริโภคควรมี โดยเฉพาะหลักเกณฑ์ในการประเมินองค์กร กระบวนการในการรับรองคุณภาพขั้นพื้นฐาน โครงสร้างองค์กรที่ต้องมีความชัดเจนและโปร่งใส การบริหารจัดการที่ตรวจสอบได้ เป็นต้น การบรรยายนี้ช่วยให้ผู้เข้าร่วมสามารถประเมินศักยภาพองค์กรตนเองได้ว่าอยู่ในระดับใด และต้องปรับปรุงจุดไหนเพื่อให้ผ่านการรับรองมาตรฐาน

ถัดจากนั้น คุณวีราภรณ์ ชินวงศ์ ผู้อำนวยการส่วนกิจการองค์กรผู้บริโภค สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ลงพื้นที่อธิบายเรื่อง ข้อกำหนดการรับรอง อกผ.3 พร้อมทั้งแนะนำวิธีการเตรียมเอกสาร ขั้นตอนการยื่นจดแจ้งอย่างละเอียด อีกทั้งได้ชี้แจงข้อกำหนดที่ต้องปฏิบัติตามอย่างชัดเจน ตั้งแต่การกรอกข้อมูลในระบบออนไลน์ ข้อควรระวังในการยื่นจดแจ้ง โดยเฉพาะด้านผลงานที่เกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคต้องสอดคล้องกับข้อกำหนด เพื่อให้องค์กรสามารถดำเนินการได้อย่างถูกต้อง และผ่านการรับรองจากสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้อย่างราบรื่น

นายวิทูรย์ บุตรสาระ ผู้รับผิดชอบโครงการ : ฝ่ายสนับสนุนสมาชิกและองค์กรของผู้บริโภค สภาองค์กรของผู้บริโภค
คุณวีราภรณ์ ชินวงศ์ ผู้อำนวยการส่วนกิจการองค์กรผู้บริโภค สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (ทางขวา) กำลังให้คำปรึกษาด้านผลงานกับตัวแทนองค์กรภาคเหนืออย่างใกล้ชิด

มาถึงช่วงที่องค์กรต่างๆ ได้นำเสนอผลงานและอธิบายรายละเอียดให้คณะจากสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้รับฟัง บรรยากาศเต็มไปด้วยความจริงจัง เห็นถึงความตั้งใจที่มุ่งมั่นจากทุกองค์กร ทุกคนต่างตั้งคำถามที่มีประโยชน์และเป็นข้อพิจารณาในการพัฒนาองค์กร เช่น เกณฑ์ใดที่จำเป็นต้องปฏิบัติเพื่อผ่านการจดแจ้ง? หรือ ผลงานที่นำมาสามารถยื่นจดแจ้งได้เลยหรือไม่? คำถามเหล่านี้ได้รับคำตอบที่ชัดเจน ตรงประเด็น พร้อมให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด ทั้งยังแนะแนวทางที่เป็นประโยชน์ให้แต่ละองค์กรสามารถปรับปรุงผลงานเพื่อให้การยื่นจดแจ้งดำเนินการได้รวดเร็ว

นอกจากกิจกรรมในห้องประชุมแล้ว ผู้เข้าร่วมยังได้ลงพื้นที่ศึกษาดูงานในหน่วยงานประจำจังหวัด อาทิ ที่หน่วยงานประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เรียนรู้กระบวนการทำงานรับเรื่องร้องเรียน การแก้ไขปัญหาของผู้บริโภค รวมถึงการบริหารจัดการองค์กรผู้บริโภคที่มีคุณภาพและการรณรงค์เพื่อสร้างการตื่นตัวในการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค ซึ่งการได้เห็นหน้างานจากผู้มีประสบการณ์หรือรุ่นพี่ช่วยเปิดมุมมองใหม่ให้กับองค์กรรุ่นน้องในอนาคตได้อย่างมีระบบ

ผู้เข้าร่วมศึกษาดูงาน ณ หน่วยงานประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยหัวหน้าสำนักงานพร้อมทีมงาน อธิบายกระบวนการทำงานรับเรื่องร้องเรียนและการบริหารจัดการองค์กรให้มีคุณภาพ

สำหรับพื้นที่ภาคใต้ อาจารย์ชโลม เกตุจินดา หัวหน้าเขตพื้นที่ภาคใต้ ได้ลงมาช่วยวางแนวทาง ให้คำแนะนำเชิงลึกเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาองค์กรให้มีความพร้อมและดำเนินงานตามมาตรฐานอย่างเคร่งครัด เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและเพิ่มโอกาสในการได้รับการรับรอง โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ตลอดจนการพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือระหว่างองค์กรเพื่อยกระดับการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค

หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของกิจกรรมคือ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้จากหน่วยงานประจำจังหวัดที่ประสบความสำเร็จ เห็นแนวทางการปรับตัวให้สอดคล้องกับข้อกฎหมายและมาตรฐานที่เปลี่ยนแปลงไป คำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์ไม่เพียงช่วยให้องค์กรรุ่นใหม่ตระหนักถึงความสำคัญของการปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังเสริมสร้างความมั่นใจในกระบวนการยกระดับคุณภาพองค์กรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การได้เห็นตัวอย่างจริงจากหน้างานทำให้ผู้เข้าร่วมมีมุมมองที่ชัดเจนและสามารถนำไปปรับใช้ได้ทันทีในองค์กรของตนเอง

การดำเนินกิจกรรมครั้งนี้ถือเป็น ก้าวแรก ในการพัฒนาองค์กรผู้บริโภคให้ก้าวสู่การเป็นที่ยอมรับในระดับประเทศ นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นในการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค องค์กรเหล่านี้จะสามารถพัฒนาไปในทิศทางที่ถูกต้องและมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ส่วนในก้าวต่อไป จะเป็น ความท้าทาย ที่สามารถก้าวข้ามได้อย่างมั่นคง เพื่อการเติบโตสู่การเป็น องค์กรสมาชิก ของสภาผู้บริโภคในอนาคต โดยการเดินทางครั้งนี้จะเป็นเส้นทางที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและโอกาสใหม่ๆ ที่จะเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคอย่างยั่งยืน