วนกลับมาอีกครั้งกับวันที่เหล่าขาช้อปทุกคนรอคอยกับวันที่มีการลดราคาอย่างโหมกระหน่ำกับแคมเปญ Double Day 6.6 เนื่องด้วยเป็นช่วงที่เหล่าบรรดาพ่อค้า แม่ค้าจะมีการลดราคาสินค้าพร้อมทั้งการแจกโค้ดส่วนลดของแพลตฟอร์มจำหน่ายสินค้าออนไลน์เพื่อเป็นการดึงดูดลูกค้านักช้อปมาใช้บริการ
ในขณะเดียวกันการซื้อสินค้าออนไลน์ก็มักพบเจอปัญหาตามมา เช่น สั่งซื้อสินค้าแต่ไม่ได้รับสินค้า การได้รับสินค้าไม่ตรงปกหรือแม้กระทั่งการได้รับสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ สภาผู้บริโภคจึงมี 3 ข้อต้องรู้ สำหรับสายช้อปออนไลน์เพื่อเป็นข้อมูลในการเลือกซื้อสินค้าเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค
3 ข้อต้องรู้เท่าทัน
- ระมัดระวังสินค้าที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย หรือสินค้าจำพวกอาหาร ยา หรืออาหารเสริมที่ถูกถอดถอนเลขทะเบียนของ อย. ไปแล้วแต่ยังนำมาขายอยู่ จากข้อมูลการเฝ้าระวังของสภาองค์กรของผู้บริโภคในช่วงที่ผ่านมาพบว่า มีการวางจำหน่ายสินค้าที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย เช่น การใส่ส่วนประกอบที่เป็นอันตรายลงในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องสำอาง ยาน้ำสมุนไพร เป็นต้น เบื้องต้นจึงแนะนำว่าผู้บริโภคควรตรวจสอบก่อนซื้อสินค้าในกลุ่มดังกล่าว โดยสามารถนำชื่อและเลขทะเบียนของผลิตภัณฑ์ไปตรวจสอบได้ที่ เว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ที่ oryor.com
- การลดราคาปลอม ร้านค้าจำนวนมากจะมีช่วงลดราคาพิเศษ โดยแต่ละร้านจะแข่งขันกันว่าร้านไหนลดราคามากกว่าเพื่อเพิ่มยอดขายของร้าน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วราคาที่ตั้งว่าลดแล้วอาจเป็นราคาที่สูงกว่าปกติ หรือเป็นการลดราคาปลอม ดังนั้น ผู้บริโภคควรตรวจสอบราคาสินค้าที่วางขายในแอปพลิเคชันอื่นหรือราคาที่ขายตามท้องตลาดประกอบการตัดสินใจด้วย
- ควรตรวจสอบร้านค้าหรือผู้ขาย ว่ามีประวัติการฉ้อโกงมาก่อนหรือไม่ เป็นสิ่งที่จำเป็นในการซื้อสินค้าออนไลน์ในยุคนี้เป็นอย่างมาก เพราะมีกรณีที่ผู้บริโภคหลายรายโดนหลอกลวงหรือถูกโกงจากมิจฉาชีพเป็นจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา ดังนั้น จึงควรเช็กว่าผู้ขายหรือร้านค้านั้นมีประวัติการฉ้อโกงหรือไม่ก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า โดยสามารถเข้าตรวจสอบรายชื่อคนโกงได้ที่เว็บไซต์ www.blacklistseller.com นอกจากนี้ยังสามารถการตรวจสอบผู้ขายรายนั้น ๆ ว่ามีการลงทะเบียนการค้าขายออนไลน์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าหรือไม่ ได้ที่เว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th เพื่อลดความเสี่ยงในการซื้อสินค้าจากช่องทางออนไลน์ได้อีกทางหนึ่ง
ข้อควรรู้ : บริโภคควรเก็บหลักฐานในการซื้อขาย เพื่อใช้ประกอบการดำเนินคดีในกรณีที่โดนโกง หรือ ถูกหลอกลวง ไว้กับตัวด้วย หลักฐานที่ควรเก็บไว้ มีดังนี้
- เก็บหรือขออีเมลของร้านค้าไว้เพื่อเป็นประโยชน์ในการดำเนินคดี
- รูปสินค้าและโฆษณาที่แสดงรายละเอียดของสินค้า
- ข้อความการสนทนาระหว่างการซื้อ – การขายไว้เป็นหลักฐาน
- สลิปการโอนเงินและเลขที่บัญชีร้านค้า
- เก็บหลักฐานอื่น ๆ เช่น บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ขายไว้ (ถ้ามี)
ทั้งนี้ หากผู้บริโภคท่านใดได้รับความเสียหายจากการซื้อสินค้าออนไลน์ สามารถโทร 1441 เพื่อแจ้งระงับ/อายัดบัญชีคนร้ายและแจ้งความดำเนินคดีกับสถานีตำรวจในพื้นที่โดยเร็วที่สุดหรือแจ้งความออนไลน์ได้ทางเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th หรือสามารถแจ้งเบาะแสมายังสภาองค์กรของผู้บริโภคได้ที่เบอร์สายด่วน 1502 หรือตามช่องทางด้านล่างดังต่อไปนี้
- ร้องเรียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ tcc.or.th คลิกลิงก์ https://crm.tcc.or.th/?entryPoint=Portal&action=complain…
- ไลน์ออฟฟิเชียล (Line Official) : @tccthailand คลิกลิงก์ https://lin.ee/uhDyO1U
- อินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก (Facebook Inbox) : สภาองค์กรของผู้บริโภค
- อีเมล : [email protected]
- โทรศัพท์ : 1502