
Co-payment คืออะไร
ระบบประกันสุขภาพแบบร่วมจ่าย หรือ Co-payment มาตรการที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ออกคำสั่งกำหนดมาตรฐานสัญญาประกันสุขภาพสำหรับบริษัทประกันชีวิตและวินาศภัย เพื่อต้องการแก้ปัญหาการเรียกร้องค่าสินไหมเกินความจำเป็น
โดยมี 3 กรณีหลัก คือ กรณีแรก หากเป็นการเจ็บป่วยเล็กน้อยหรือโรคที่ไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล และมีการเรียกร้องเกิน 3 ครั้งต่อปีกรมธรรม์ พร้อมกับมีอัตราการเรียกร้องเกิน 200% ของเบี้ยประกัน จะต้องร่วมจ่าย 30% ของค่ารักษาในปีถัดไป กรณีที่สอง หากเป็นโรคทั่วไป (ไม่รวมการผ่าตัดใหญ่และโรคร้ายแรง) และมีการเรียกร้องเกิน 3 ครั้งต่อปี โดยมีอัตราการเรียกร้องเกิน 400% ของเบี้ยประกัน จะต้องร่วมจ่าย 30% ของค่ารักษาในปีถัดไป และกรณีที่สาม หากเข้าข่ายทั้งสองกรณีข้างต้น จะต้องร่วมจ่าย 50% ของค่ารักษาในปีถัดไป
ทำไมต้องชะลอ Co-payment
- ข้อมูลเงื่อนไขและผลกระทบไม่ชัดเจน
- ไม่มีการรับฟังความเห็นจากผู้บริโภค
- ไม่ได้ช่วยลดปัญหาการเรียกร้องค่าสินไหมเกินจริงได้
- ผู้เอาประกันไม่สามารถวินิจฉัยอาการได้เอง อาจถูกเอาเปรียบ
61% ของผู้บริโภคไม่เห็นด้วยร่วมจ่ายในประกันสุขภาพ
การสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคผ่านเพจเฟซบุ๊ก สภาองค์กรของผู้บริโภคว่า “ทุกคนมีความเห็นยังไงกับ ประกันสุขภาพแบบร่วมจ่าย หรือ Co-payment” (เมื่อวันที่ 22 มกราคม 68) ผลสำรวจจากทั้งหมด 314 เสียง มีถึง 61% ที่ไม่เห็นด้วยกับระบบนี้ ขณะที่ 33% ยังไม่แน่ใจและต้องการข้อมูลเพิ่มเติม และมีเพียง 6% เท่านั้นที่เห็นด้วย สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลของผู้บริโภคต่อผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
ข้อเสนอคุ้มครองผู้บริโภค
- ชะลอใช้มาตรการ Co-payment เพื่อให้ผู้บริโภคมีเวลาทำความเข้าใจ
- ทบทวนเงื่อนไขร่วมจ่าย ให้เหมาะสมกับช่วงอายุและความเสี่ยง
- เปิดรับฟังความคิดเห็นก่อนออกมาตรการ
- ควบคุม ตรวจสอบราคาค่ารักษาในโรงพยาบาลเอกชน
ทั้งนี้ สภาผู้บริโภคได้ยืนหนังสือถึง คปภ. – สมาคมประกันชีวิตไทย – สมาคมประกันวินาศภัยไทย เรียกร้องให้ชะลอการบังคับใช้ Co-payment ตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 แต่ไม่มีการตอบหนังสือแต่อย่างใด
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง