เสียงสะท้อนเหยื่อแอปเงินกู้เถื่อน ที่เริ่มต้นจากการกู้ 1 แอปด้วยยอดกู้ 25,000 บาท ท้ายสุดกลายเป็นหนี้แอปเงินกู้เถื่อน 20 แอป ยอดหนี้พุ่งเป็น 445,000 บาท
ผู้บริโภครายหนึ่งเล่าว่า ตัวเองเริ่มต้นกู้เงินจากแอปเงินกู้เถื่อนไป 25,000 บาท ตั้งใจเอามาหมุนใช้ แม้รู้ว่าดอกเบี้ยแพง แต่คิดว่ายอดไม่ได้เยอะมากซึ่งคาดว่าจะสามารถจ่ายไหว และมีความจำเป็นต้องใช้เงินจึงตัดสินใจกู้
เมื่อได้รับเงินมาแล้ว สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อถึงวันที่ครบกำหนดจ่ายเงินกลับไม่สามารถชำระได้ ทำให้ต้องกู้เงินเพิ่มด้วยการกู้เงินจากแอปที่สองเพื่อมาปิดแอปแรก แต่พอครบกำหนดของแอปที่สองก็ไม่สามารถจ่ายหนี้ได้เช่นกันเนื่องจากไม่สามารถหาเงินได้ทันเวลา จึงแก้สถานะการณ์ด้วยการกู้จากแอปที่สาม ที่สี่ ที่ห้า จนทำให้เกิดการหมุนเวียนของหนี้ที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนล่าสุดพบว่าตนเองกู้เงินไปแล้วจาก 20 แอปทำให้มียอดหนี้รวมมากถึง 445,000 บาท
ทำไมการกู้เงินถูกกฎหมายจึงสำคัญ
ผู้บริโภคได้เผยต่อว่า เหตุที่กู้เงินจากแอปเถื่อนทั้ง ๆ ที่รู้ว่าต้องชำระดอกเบี้ยที่สูงมาก แต่ตัวเองมีความจำเป็นต้องใช้เงินและมีปัญหาประวัติการชำระหนี้ จึงไม่สามารถเข้าถึงสถาบันการเงินที่ถูกกฎหมายได้ ทำให้ไม่มีทางเลือกนอกจากหันไปกู้เงินนอกระบบ หากตนเองสามารถกู้เงินจากช่องทางที่ถูกกฎหมาย ตัวเองคงไม่เลือกใช้แอปเงินกู้เถื่อน ซึ่งตนเองยอมรับว่านี่เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิต
เมื่อยอดหนี้และดอกเบี้ยที่ต้องชำระจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และตนเองไม่สามารถชำระเงินได้ตามเวลา ทำให้ตนต้องตกอยู่ในกระบวนทวงหนี้โหดด้วยการถูกข่มขู่และประจาน รวมถึงการทวงหนี้กับญาติหรือเพื่อนของตนเอง ซึ่งหากไม่สามารถชำระหนี้ได้ ทำให้ตนตกอยู่ในภาวะเครียดและวิตกกังวล
“ทุกวันนี้ต้องกินยานอนหลับนอน ไม่อย่างนั้นจะนอนไม่หลับ พอตื่นเช้ามาก็ต้องมาหยิบโทรศัพท์ดูว่าแบบเขาจะโพสต์อะไรไว้แล้วส่งมาให้ดู เหมือนเขาเล่นกับความรู้สึกของเรา ตอนนี้เรารู้สึกเครียดและวิตกกังวล เราเป็นหนี้ขนาดนี้ แบบหาทางแก้ไม่ได้ เคยถึงขั้นคิดจะจบชีวิต แต่คิดว่าถ้าเราทำไปคนอื่นเขาก็มาแบกรับภาระแทนเรา” ผู้บริโภครายนี้เล่า
จากเรื่องราวที่เกิดขึ้น ผู้บริโภคจึงได้ฝากเตือนสติผู้บริโภคคนอื่น ๆ ให้ไตร่ตรองอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจกู้เงิน โดยเฉพาะจากแหล่งเงินกู้ที่ผิดกฎหมาย แม้สถานการณ์จะบีบบังคับหรือดูเหมือนว่าจำเป็นต้องใช้เงินก็ตาม เพราะดอกเบี้ยที่สูงเกินจริงและเงื่อนไขที่ไม่เป็นธรรมอาจนำไปสู่ปัญหาหนี้สินที่เกินควบคุม อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตและความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง หากมีความจำเป็นต้องใช้เงิน ควรมองหาทางเลือกที่ปลอดภัยและถูกกฎหมาย เพื่อป้องกันไม่ให้การตัดสินใจที่ผิดพลาดกลายเป็นบทเรียนที่ยากจะแก้ไขในอนาคต
แนวทางจัดการหนี้จากแอปเงินกู้เถื่อน
จากเหตุการณ์ดังกล่าวที่มีผู้บริโภคจำนวนมากตกอยู่ในสถานะการณ์เหยื่อแอปเถื่อน สภาผู้บริโภคจึงฝากย้ำเตือนถึงผู้บริโภคที่กำลังตกเป็นเหยื่อของแอปเงินกู้เถื่อน สิ่งแรกที่ควรทำคือหยุดการกู้เพิ่มทันที และรวบรวมหลักฐานทุกอย่างที่เกี่ยวกับการทวงหนี้ที่ผิดกฎหมาย เช่น ข้อความการข่มขู่ การประจาน หรือการคุกคาม แจ้งความกับตำรวจในพื้นที่และติดต่อสายด่วนศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม โทร. 1213 เพื่อขอคำปรึกษาเพิ่มเติม และควรเลือกแหล่งเงินกู้ที่ได้รับอนุญาตจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อ ได้ที่ https://www.bot.or.th/th/license-loan.html
สภาผู้บริโภคผลักดันแนวทางช่วยเหลือเหยื่อแอปเงินกู้เถื่อน
อย่างไรก็ตาม ในกรณีนี้เป็นการสะท้อนถึงความสำคัญของการเข้าถึงแหล่งเงินกู้ที่ปลอดภัยและเป็นธรรมซึ่งเป็นประเด็นที่สภาผู้บริโภคกำลังผลักดัน โดยที่ผ่านมาสภาผู้บริโภคได้นำร่องจัดอบรมหลักสูตร “หมอหนี้” ให้แก่หน่วยงานประจำจังหวัด สมาชิกองค์กรผู้บริโภค องค์กรชุมชน และภาคีเครือข่ายด้านหนี้ เพื่อสร้าง ‘คนทำงานคุ้มครองผู้บริโภคและเครือข่ายภาคประชาชน’ ให้เป็นหมอหนี้ภาคประชาชน เพื่อเป็นที่ปรึกษา พี่เลี้ยง ให้คำแนะนำในการวางแผนการชำระหนี้ให้แก่ลูกหนี้ นอกจากนี้ ยังได้ร่วมสนับสนุนเสนอกฎหมาย “ร่างกฎหมายปฏิรูปเครดิตบูโร”เพื่อแก้ปัญหาหนี้นอกระบบให้ผู้ที่ต้องการกู้เงินหรือสินเชื่อสามารถเข้าถึงสถาบันที่ถูกกฎหมายได้