มัดรวม! กลโกงมิจฉาชีพที่ต้องรู้สัปดาห์นี้ 

มัดรวมมาให้แล้วกับกลโกงมิจฉาชีพในสัปดาห์นี้ ชวนดูให้รู้ทันภัย ป้องกันได้ ไม่เสียเงิน

ทุกวันนี้โลกออนไลน์และกิจกรรมในชีวิตประจำวันมีภัยจากมิจฉาชีพมากมายที่คอยล่อลวงให้เราหลงเชื่อจนเกิดความเสียหายได้ไม่รู้ตัว การรู้เท่าทันภัยและป้องกันตัวเองได้ทันเวลาจึงเป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน

โดยเฉพาะใน​สัปดาห์นี้มีประเด็นเตือนภัยที่เกิดขึ้นในหลายรูปแบบที่ผู้บริโภคต้องระมัดระวัง ไม่ว่าจะเป็นภัยออนไลน์ หรือภัยจากมิจฉาชีพทั่วไป ที่พร้อมหลอกลวงและหลอกเอาทรัพย์สินได้ทุกเมื่อ ดังนั้น สภาผู้บริโภคชวนดูกลโกงมิจฉาชีพ วิธีรับมือและหลีกเลี่ยงสถานการณ์เหล่านี้

1. ถ่ายข้อมูลบัตรก่อนเข้าร้านเหล้า / ข้อมูลหลุด ภัยมิจฉาชีพ

​หลายคนอาจไม่ทันระวังเมื่อถูกขอถ่ายสำเนาข้อมูลบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรเครดิตก่อนเข้าร้านเหล้า แต่แท้จริงแล้ว การให้ข้อมูลเหล่านี้อาจตกเป็นเป้าหมายของมิจฉาชีพ ที่นำไปใช้ในการปลอมแปลงเอกสารหรือทำธุรกรรมทางการเงินได้ ดังนั้น หากต้องการไปที่ร้านที่มีการขอข้อมูลบัตร ให้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของร้านนั้นๆ หรือหลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลที่ไม่จำเป็นโดยเด็ดขาด

2. แอปเงินกู้เถื่อน ถูกเอาข้อมูลเปิดบัญชีม้า โดนจับ

​หลายคนอาจเคยเห็นโฆษณาแอปเงินกู้ด่วนบนโซเชียลมีเดีย แต่บางแอปที่ไม่ได้รับการควบคุม อาจนำข้อมูลของเราไปเปิดบัญชีม้าเพื่อใช้ในกิจกรรมผิดกฎหมาย โดยที่เราอาจไม่รู้ตัว จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้บริการจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ และหากต้องการเงินด่วน ควรใช้บริการจากแหล่งที่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเท่านั้น

3. มือถือ OPPO กับ realme แอบติดตั้งแอปพลิเคชันกู้เงินเถื่อน

มีรายงานว่าผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ OPPO และ realme พบแอปพลิเคชันเงินกู้เถื่อนถูกติดตั้งมาโดยไม่ได้รับอนุญาต บางกรณีผู้ใช้ไม่ทันสังเกต ทำให้แอปดังกล่าวขโมยข้อมูลส่วนตัวหรือติดตั้งไวรัส ซึ่งอาจนำไปสู่การเปิดบัญชีม้า หรือสูญเงินจากการขโมยข้อมูลทางการเงิน ปัจจุบันไม่สามารถถอนการติดตั้งแอปฯ ได้อย่างถาวร เนื่องจากแอปฯ ติดตั้งมาพร้อมกับระบบ ผู้บริโภคจึงทำได้เพียงการปิดกั้นการเข้าถึงไว้เท่านั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการเรียกร้องให้บริษัทชี้แจงและเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องลงโทษตามกฎหมาย

4. เข้าออนเซ็น แล้วถูกขโมยบัตรเครดิตไปรูด

​เมื่อไปออนเซ็นหรือห้องน้ำสาธารณะ มิจฉาชีพอาจแฝงตัวเข้าไปในพื้นที่เหล่านั้นเพื่อขโมยข้อมูลจากบัตรเครดิตของเรา ดังนั้น ควรเก็บบัตรเครดิตให้ห่างจากตัว หรือใช้กระเป๋าเงินที่สามารถล็อกได้ เพื่อป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพทำการขโมยข้อมูลและทำธุรกรรมที่เราไม่อนุญาต

5. ทาสหมาแมวระวังโดนหลอกซื้อภาพ กดลิงก์ล้วงข้อมูลสูญเงินแน่

​ในยุคที่คนรักสัตว์เลี้ยงมากขึ้น มิจฉาชีพได้หาช่องทางใหม่ในการหลอกลวง เช่น การขายภาพสัตว์เลี้ยงหรือของขวัญออนไลน์ ซึ่งมักจะมาพร้อมกับลิงก์ที่หากกดเข้าไปอาจทำให้ข้อมูลส่วนตัวของคุณถูกขโมยไปควรตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูลและไม่กดลิงก์ที่ไม่รู้จักหรือไม่น่าเชื่อถือ

6. มิจฉาชีพหลอกให้ซื้อลอตเตอรี่

​การหลอกขายลอตเตอรี่ปลอมหรือหลอกให้โอนเงินเพื่อจองล็อตเตอรี่มักเกิดขึ้นบ่อย ๆ โดยผู้เสียหายมักจะถูกหลอกให้เชื่อว่าโชคดีจะได้รับรางวัลใหญ่ เมื่อจ่ายเงินแล้วมิจฉาชีพก็หายตัวไป ดังนั้น ควรตรวจสอบให้ดีทุกครั้งก่อนที่จะทำการโอนเงิน และหากเป็นลอตเตอรี่ที่ไม่เป็นทางการ ให้หลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาด

7. การล่อลวงออนไลน์ – คนร้ายสร้างความไว้วางใจกับเด็ก ผ่านเกมหรือสื่อสังคมออนไลน์ แล้วพยายามนัดพบตัวจริง เพื่อล่วงละเมิดทางเพศ

​ภัยจากการล่อลวงออนไลน์นั้นร้ายแรง โดยเฉพาะในกรณีที่คนร้ายใช้สื่อสังคมออนไลน์หรือเกมออนไลน์ในการสร้างความไว้วางใจให้กับเด็กแล้วพยายามนัดพบเพื่อทำการล่วงละเมิดทางเพศ ควรสอนเด็กให้ระมัดระวังในการพูดคุยออนไลน์กับคนที่ไม่รู้จัก และควรมีการติดตามพฤติกรรมการใช้สื่อสังคมออนไลน์ของเด็กอย่างใกล้ชิด

8. การหลอกถ่ายคลิปลามก – คนร้ายหลอกล่อเด็กให้ถ่ายภาพหรือคลิปลามกส่งให้กับคนร้าย จากนั้นนำภาพหรือคลิปลามกไปขาย หรือนำมาแบล็กเมล์ เรียกเอาเงินจากผู้ปกครอง

​ภัยนี้อาจเกิดขึ้นกับเด็กที่ตกเป็นเหยื่อจากการหลอกล่อให้ส่งภาพหรือคลิปลามก ผ่านการแชทออนไลน์ โดยมิจฉาชีพจะนำภาพเหล่านั้นไปแบล็กเมล์หรือขายให้ผู้อื่น สร้างความเสียหายให้ทั้งเด็กและครอบครัว ดังนั้น การสอนให้เด็กไม่ส่งภาพส่วนตัวหรือคลิปลามก และรายงานพฤติกรรมที่น่าสงสัยให้ผู้ปกครองทราบทันทีจึงเป็นสิ่งสำคัญ

9. การกลั่นแกล้งทางออนไลน์ – การที่เด็กถูกกลั่นแกล้งในสื่อสังคมออนไลน์ จากการโพสต์ข้อความหรือรูปภาพที่ทำให้เสียหาย

​การกลั่นแกล้งทางออนไลน์หรือ Cyberbullying เป็นอีกหนึ่งภัยที่มีผลกระทบต่อจิตใจของเด็กและเยาวชน การพูดจาหรือโพสต์ภาพที่ทำให้ผู้อื่นเสียหาย สามารถสร้างความเครียดและบอบช้ำทางจิตใจได้ ดังนั้น ควรแนะนำให้เด็กระมัดระวังในการใช้สื่อสังคมออนไลน์และรู้จักรายงานเมื่อเจอเหตุการณ์ดังกล่าว

10. ภัยหลอกอ้างส่งของผิดกฎหมาย ขู่โอนเงินตรวจสอบสูญเงินแสน

​มิจฉาชีพอาจหลอกลวงโดยอ้างว่ามีการส่งของผิดกฎหมายมาให้เราและขู่ให้โอนเงินเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกดำเนินคดี นี่คือวิธีหนึ่งที่ใช้สร้างความกลัวและกดดันให้เหยื่อโอนเงิน ดังนั้น หากเจอสถานการณ์ดังกล่าว ควรรีบแจ้งตำรวจหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

11. การหลอกลวงซื้อขายสินค้า – คนร้ายหลอกลวงให้เด็กโอนเงินซื้อสินค้า ผ่านเกมหรือสื่อสังคมออนไลน์ แล้วไม่ส่งของให้

​การซื้อขายสินค้าออนไลน์หรือผ่านเกมที่ไม่ผ่านระบบการชำระเงินที่ปลอดภัย อาจทำให้เราเสี่ยงต่อการถูกหลอกให้โอนเงินแล้วไม่ได้รับสินค้าดังที่คาดหวัง ดังนั้น ควรเลือกใช้แพลตฟอร์มที่มีความน่าเชื่อถือและหลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมผ่านช่องทางที่ไม่น่าเชื่อถือ

12. เตือนภัยเที่ยวงานฤดูหนาว ระวังซุ้มฝึกความแม่น แจ้งราคาไม่ตรง

​ในบางงานเทศกาลหรืองานฤดูหนาว มักจะมีซุ้มฝึกความแม่น หรือเกมทายโชค ที่เรียกเก็บเงินจากผู้เล่น แต่บางครั้งราคาอาจไม่ตรงกับที่แจ้งไว้หรือมีการหลอกลวงในการให้รางวัล ควรระมัดระวังไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ

ช่องทางร้องเรียนเมื่อตกเป็นเหยื่อ

  • ​ศูนย์ดำรงธรรม สายด่วน 1567 ​
  • สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สายด่วน 1166
  • ศูนย์รับแจ้งการเงินนอกระบบ สายด่วน 1359
  • กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) โทร 1441
  • ศูนย์คุ้มครองผู้บริโภคทางการเงิน (ศคง.) โทร 1213
  • สภาผู้บริโภค โทร 1502 ร้องเรียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ tcc.or.th

ภัยมิจฉาชีพที่หลากหลาย ทำให้ผู้บริโภคต้องเผชิญความเสี่ยงและภาระในการป้องกันตัวเองเพียงลำพัง ทั้งที่การแก้ไขและป้องกันปัญหาควรเป็นหน้าที่ของหน่วยงานรัฐโดยตรง เช่น กสทช., กระทรวงดีอี และตำรวจไซเบอร์ รัฐควรพัฒนากฎหมายและมาตรการกำกับดูแลให้ทันต่อภัยในโลกดิจิทัล ควบคุมบริษัทเทคโนโลยีและผู้ให้บริการอย่างใกล้ชิด ป้องกันช่องโหว่ที่มิจฉาชีพจะใช้ประโยชน์ รวมถึงเร่งสร้างระบบแจ้งเตือนและช่วยเหลือผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ

ผู้บริโภคไม่ควรแบกรับความเสี่ยงเพียงฝ่ายเดียว รัฐต้องมีบทบาทชัดเจนในการปกป้องประชาชน ตั้งแต่การป้องกันเชิงรุก การให้ข้อมูลความรู้ ไปจนถึงการเยียวยาเมื่อเกิดเหตุ เพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยในชีวิตประจำวันของทุกคน