สภาผู้บริโภคเสนอมาตรการก่อสร้างปลอดภัยถนนพระราม 2 หลังก่อสร้างมานานกว่า 50 ปี แต่ไม่มีมาตรการควบคุมการก่อสร้างที่ปลอดภัยป้องกันการเสี่ยงชีวิตจากการเดินทาง
การก่อสร้างบนถนนพระราม 2 ที่เกิดขึ้นยาวนานกว่า 50 ปี สร้างผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินประชาชนในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่องเพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบมาอย่างยาวนาน
บุญยืน ศิริธรรม ประธานสภาผู้บริโภคและหนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบจากการใช้ถนนพระราม 2 เนื่องจากเป็นผู้ใช้ถนนพระราม 2 กล่าวว่า จากประสบการณ์ที่ได้ใช้ถนนพระราม 2 เป็นระยะเวลามากกว่า 30 ปีเพราะต้องเดินทางจากอำเภอแม่กลอง จ.สมุทรสงคราม มาทำงานที่กรุงเทพฯ ต้องเผชิญกับความเสี่ยงต่าง ๆ ทุกนาทีไม่รู้ว่าจะมีอะไรตกลงมาเมื่อไหร่ทำให้ชีวิตการเดินทางต้องเสี่ยงชีวิตตลอดเวลานอกจากนี้การก่อสร้างที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้สภาพการจราจรที่ติดขัดอย่างมาก
“ชีวิตบนถนนพระราม 2 คือความเสี่ยงในทุกวินาทีที่อยู่บนถนน ทั้งเรื่องรถชน ตกหลุมถนน สิ่งก่อสร้างหล่นมาทับหัว ใช้ชีวิตบนถนนแบบไม่รู้ชะตากรรมเลยว่าวันนี้จะเจออะไร จะมีอะไรร่วงใส่หัว จะยังมีชีวิตรอดกลับถึงบ้านไหม มันไม่มีอะไรที่ค้ำประกันชีวิตได้เลย จึงอยากให้มีการแก้ไขเชิงนโยบาย มีกฎหมายที่คุ้มครองความปลอดภัยของประชาชน และอยากให้มีการปิดตำนานพระราม 2 ซ่อม 7 ชั่วโคตร ไม่ควรเกิดขึ้น และอยากบอกว่าสภาผู้บริโภคเป็นเพื่อนผู้บริโภคหากเดือดร้อนนึกไม่ออกมาบอกกับพวกเราได้ ยินดีเชื่อมประสานหน่วยงานแก้ไขในเชิงนโยบายเพื่อความปลอดภัยของประชาชน”
ขณะที่สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาผู้บริโภค มีข้อเสนอในระยะสั้นและระยะยาวหลังรับฟังปัญหาชุมชนว่า การแก้ไขปัญหาระยะสั้นที่เป็นความเดือดร้อนของชุมชนป้าแดงควรเกิดขึ้นภายใน 7 วัน คือ 1. ปัญหาน้ำท่วมขังชุมชนป้าแดง ต้องใช้ท่ออ่อนดูดน้ำออกจากชุมชน 2. การจัดการความปลอดภัยในการเดินทางจะเก็บกวาดอย่างไรให้เดินทางแล้วปลอดภัย 3. ต้องเร่งดำเนินการวางป้ายบอกทาง หรือ ชื่อโครงการก่อสร้างว่าเป็นของบริษัทไหน ก่อสร้างเสร็จเมื่อไหร่ เบอร์ติดต่อผู้รับผิดชอบ เพื่อให้ชาวบ้านสามารถติดต่อได้
“อยากฝากชาวบ้านในชุมชนช่วยติดตามว่าทั้ง 3 มาตรการบริษัทจะสามารถดำเนินการได้ภายใน 7 วันหรือไม่ หากยังไม่มีมาตรการเหล่านี้ให้ชาวชุมชนช่วยแจ้งมายังสภาผู้บริโภค หรือ สส.ปูอัด สก.วิรัชได้ พวกเราจะได้ลงมาติดตามเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในระยะสั้น”
ส่วนมาตรการระยะยาว นางสาวสารี กล่าวว่า ข้อแรกอยากเห็นการก่อสร้างแล้วมีแผนในเรื่องความปลอดภัยอย่างไร หรือหากเป็นไปได้จะสามารถก่อสร้างได้ที่ละครึ่งเพื่อให้สามารถใช้ทางร่วมกันและมีทางเบี่ยงที่ชัดเจนได้เพราะอยากเห็นการเดินทางของคนใช้ถนนไม่มีความเสี่ยงตลอด 24 ชั่วโมงได้อย่างไร
2.เร่งรัดการก่อสร้างให้แล้วเสร็จโดยเร็วไม่ยืดเยื้อไม่ขยับเวลาก่อสร้าง และ 3.อยากเห็นว่าการเยียวยาที่ทันท่วงที หากมีการเสียชีวิตชาวบ้านไม่ต้องไปฟ้องคดี แต่ต้องมีกลไกอัตโนมัติจากสัญญาก่อสร้างให้มีผู้มารับผิดชอบเยียวยา หรือมีประกันชีวิตในบุคคลที่ 3 ได้ทันที เช่น หากมีผู้เสียชีวิตต้องชดเชยเยียวยาเป็นจำนวนเงิน 7.5 ล้านบาทขึ้นไป
ลัดดา พันธุมะโรจน์ อายุ 63 ปี ชาวบ้านชุมชนป้าแดงซึ่งโตมาพร้อมกับการสร้างถนนบนถนนพระราม 2 ตั้งแต่อายุ 20 ปี จนกระทั่งปัจจุบันบอกว่า ชาวบ้านในชุมชนได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างมาตลอด มีทั้งปัญหาฝุ่น ความไม่ปลอดภัยจากการเดินทางเกรงว่าคานเหล็กจะร่วงลงมาใส่ ขณะที่รวมถึงปัญหาน้ำท่วมในชุมชนที่ไม่สามารถระบายออกไปได้
“ชาวบ้านก็อยู่กับการก่อสร้างมานาน แต่เหมือนจะชิน แต่ที่ไม่ชินเพราะการก่อสร้างล่าสุดตัดท่อระบายน้ำเพื่อวางตอม่อทำให้นำท่วมขังในชุมชนตลอดเวลาได้บอกและแจ้งไปแล้วก็ไม่มีการแก้ไข”
ขณะที่วิรัตน์ เจริญดีและจำนงค์ เพชรเกษตร แกนนำชุมชนป้าแดง บอกว่า การที่มีคนเรียกถนนพระราม 2 ว่าเป็นถนน 7 ชั่วโคตร ก็คงไม่ได้ผิดอะไร เพราะพวกเราเองเป็นคนดั้งเดิมของชุมชน ก็เห็นการก่อสร้างไม่เคยเสร็จสักครั้ง ขณะที่การก่อสร้างก็ไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัย เช่น กรณี ภรรยาของตนเดินไปตลาด สภาพถนนที่ขรุขระหว่างก่อสร้างก็ลื่นล้มและมีคนในชุมชนได้รับอุบัติเหตุมอเตอร์ไซต์ล้มไปหลายคน แต่ชาวชุมชนไม่รู้ว่าต้องติดต่อความช่วยเหลือจากใครหรือโครงการไหน