ผู้บริโภคได้เงินคืนแล้ว หลังสภาผู้บริโภคช่วยไกล่เกลี่ยกับคลินิกเสริมความงามคืนเงิน กรณีได้รับบริการหลังการขายที่ไม่ดี – ผู้ให้บริการไม่ใช่แพทย์เฉพาะทาง
จากกรณีที่มีผู้บริโภคเข้ามาร้องเรียนเนื่องจากต้องการยกเลิกซื้อบริการเสริมความงามแต่คลินิกปฏิเสธ สภาผู้บริโภคได้ให้การช่วยเหลือผู้บริโภคผู้นี้ หลังจากผู้บริโภคที่ได้ซื้อคอร์สเสริมความงามที่คลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่ง ใน จ.ฉะเชิงเทรา แต่กลับได้รับบริการหลังการขายที่ไม่ดี อีกทั้งยังพบว่าผู้ให้บริการไม่ใช่แพทย์เฉพาะทาง ผู้บริโภคจึงต้องการยกเลิกบริการและขอคืนเงินทั้งหมด แต่ถูกปฏิเสธการคืนเงิน ดังนั้นจึงได้เดินหน้าเข้ามาร้องเรียนกับสภาผู้บริโภค
ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค สภาผู้บริโภค ที่ได้ดำเนินการทำคำร้องขอไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนฟ้องร้องคลินิกเสริมความงามผ่านระบบออนไลน์ หลังจากนั้นไม่นานสภาผู้บริโภคได้ทราบจากผู้บริโภคว่าคลินิกฯ ได้ติดต่อเพื่อคืนเงินจำนวนเงิน 20,000 บาท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ ผู้บริโภคได้ระบุข้อความแสดงความขอบคุณสภาผู้บริโภคทิ้งท้ายไว้ในกระดานข่าวในหน้าเว็บไซต์รับเรื่องร้องเรียนของสภาผู้บริโภคว่า “รู้สึกดีใจมากที่ได้รู้จักสภาผู้บริโภค กระทั่งได้รับการช่วยเหลือจนได้รับการเยียวยา เป็นที่น่าดีใจที่สังคมไทยมีองค์กรดี ๆ อย่างสภาผู้บริโภคที่คอยให้ความช่วยเหลือกับผู้บริโภคที่ได้รับความเดือนร้อนอย่างแท้จริง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสังคมไทยจะได้รับการยกระดับถ้าทุกคนปกป้องสิทธิของตนเอง”
อย่างไรก็ตาม หากผู้บริโภคถูกละเมิดสิทธิ ถูกบังคับใช้ซื้อคอร์สเสริมความงาม หรือใช้บริการแล้วแต่ไม่พึงพอใจในบริการ สามารถรวบรวมหลักฐาน ได้แก่ สัญญาหรือใบสมัครรับบริการ หลักฐานการโอนเงิน ใบเสร็จรับเงิน ใบคำร้องขอคืนเงินหรือทำหนังสือบอกเลิกสัญญา หรือสามารถติดต่อขอคำปรึกษาหรือร้องเรียนผ่านสภาผู้บริโภค ได้ที่เบอร์ 1502 ในวันและเวลาทำการ (วันจันทร์ถึงวันศุกร์ ตั้งแต่ 09.00 – 17.00 น.) หรือร้องเรียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ tcc.or.th และนอกจากนี้สามารถร้องเรียนกับหน่วยงานประจำจังหวัดของสภาผู้บริโภค ทั้ง 18 จังหวัด โดยดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ https://www.tcc.or.th/tcc-agency/