เตือนภัย : ระวัง ซื้อขาย รถยนต์-มอเตอร์ไซค์ มือสองออนไลน์ เสี่ยงไม่ได้รับสินค้า

สภาองค์กรของผู้บริโภค (สภาผู้บริโภค) ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคกรณีซื้อรถมอเตอร์ไซค์ ยี่ห้อ Honda Wave 125i มือสอง หลุดจำนำ ราคาถูก ในราคา 13,000 บาท จาก เพจขายรถมือสองสภาพดี โดยมิจฉาชีพได้โฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับรถมอเตอร์ไซค์ มือสองดังกล่าว ว่าเป็นรถหลุดจำนำซึ่งไม่ได้มีการจำหน่ายหน้าร้าน โดยรถมอเตอร์ไซค์มือสองดังกล่าวมีเล่มทะเบียนเป็นรถที่ไม่ผิดกฏหมาย สามารถต่อ พรบ.ตามกฏหมายได้ จากนั้นมิจฉาชีพจึงลวงให้ผู้บริโภคโอนเงินโดยแจ้งว่าเป็นค่านายหน้า ค่ามัดจำและค่าธรรมเนียม ผู้บริโภคจึงหลงเชื่อและได้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของมิจฉาชีพด้วยกันหลายครั้ง ต่อมามิจฉาชีพอ้างว่าจำเป็นต้องชำระค่าภาษีจากกรมสรรพากร จึงให้แอดไอดีไลน์ซึ่งมิจฉาชีพได้สวมรอยเป็นเจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตรวจสอบค่าภาษี จากนั้นมิจฉาชีพที่อ้างตัวว่าเป็น เจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สนทนากับผู้บริโภคว่าไม่สามารถตรวจสอบภาษีได้ให้โอนเงินเพิ่มเพื่อสำหรับการตรวจสอบภาษี ภายจากโอนเงินแล้วผู้บริโภคก็ไม่สามารถติดต่อกับทางเพจได้อีก โดยรวมมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจากกรณีนี้ เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 21,000 บาท สภาผู้บริโภคจึงขอเตือนภัยให้ผู้บริโภคระมัดระวังไม่ซื้อขาย รถยนต์-มอเตอร์ไซค์กับเพจดังกล่าวและหลีกเลี่ยงการโอนเงินไปยังบัญชีดังต่อไปนี้

  1. ธนาคารซีไอเอ็มบี เลขที่บัญชี 70-1406014-5 ชื่อนายนฤพงศ์ มัทยา
  2. ธนาคารซีไอเอ็มบี เลขที่บัญชี 701-4-06079-5 ชื่อนายกันตภณ พรมมารักษ์
  3. ธนาคารซีไอเอ็มบี เลขที่บัญชี 701-405937-1 ชื่อนายวุฒิชัย เดชแดง
  4. ธนาคารซีไอเอ็มบี เลขที่บัญชี 701-406169-7 ชื่อนางสาวนิตยา อ้วนสมบูรณ์
  5. ธนาคารกสิกรไทย เลขบัญชี x-6820 ชื่อ นายมลตรี อันวิมล
  6. พร้อมเพย์ หมายเลข xxx-xxx-1337 ชื่อ นางสาวประกายมาศ นันตา

7 ข้อเตรียมตัวก่อนตัดสินใจซื้อ รถมือสอง

1.สืบค้นหาข้อมูลก่อนตัดสินใจ

อันดับแรกต้องไปหาข้อมูลและประเภทรถที่อยากได้ วัตถุประสงค์การใช้งาน รวมถึงเช็คราคาก่อนด้วยว่าอยู่ในงบประมาณที่กำหนดไว้รึเปล่า เช่น รถที่คุณอยากได้เป็น รถอีโคคาร์ หรือรถประเภท c-segment เป้นต้น โดยสามารถอ่านรีวิวข้อมูลของรถประเภทต่าง ๆ ตามเว็บไซต์ เพจเฟซบุ๊ก หรือเฟซบุ๊กกรุ๊ปรีวิวรถ เพื่อเปรียบเทียบกันทั้งข้อดีและข้อเสีย นอกจากนี้ยังควรมองหารถรุ่นอื่น ๆ ในประเภทเดียวกันที่นอกเหนือจากรถรุ่นที่อยากได้ไว้เผื่อเป็นทางเลือกเพิ่มเติม

2.ติดต่อไปยังเต็นท์หรือผู้ขายรถมือสอง

เมื่อเลือกรุ่นรถที่อยากได้แล้ว ต่อมาก็เป็นการมองหาเต็นท์รถมือสองที่มีรถรุ่นดังกล่าว ซึ่งอาจจะปรึกษากับญาติพี่น้อง หรือคนใกล้ตัวที่มีความรู้เกี่ยวกับการซื้อขายรถมือสอง โดยส่วนมากคนเหล่านี้จะรู้แหล่งซื้อ-ขายรถมือสองที่คุณภาพดี และไว้ใจได้ จากนั้นจึงติดต่อสอบถามราคา และประวัติรถเบื้องต้น ไปยังเต๊นท์หรือผู้ขายรถเพื่อประกอบการตัดสินใจ

3.เตรียมเอกสารที่จำเป็น

การเตรียมตัวก่อนไปยังเต็นท์รถเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เช่นเดียวกับการเตรียมเอกสาร หากในกรณีที่เราบังเอิญไปเจอรถคันที่ถูกใจและต้องการจองหรือซื้อทันที ถ้าเรามีการเตรียมการล่วงหน้า จะทำให้การดำเนินการซื้อขายรถเป็นไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเอกสารที่เราควรจะเตรียมไปด้วยมีดังนี้

  • บัตรประชาชนฉบับจริงพร้อมสำเนา
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 6 เดือน หรือ หนังสือรับรองเงินเดือน
  • สมุดบัญชีธนาคาร

4.ตรวจเช็คสภาพรถ

สิ่งสำคัญเมื่อไปเจอรถครั้งแรก จะเริ่มจากการเช็คสภาพภายนอกรถยนต์ทั้งรอยขีดข่วน สีรถ และรอยบุบต่างๆ ตามด้วยการเช็คสภาพภายในตามคอนโซล หน้าปัดไมล์ ระบบปรับอากาศ และสภาพเบาะนั่ง รวมถึงกลิ่นภายในรถก็เป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญ ซึ่งควรจะต้องไม่มีกลิ่นชื้นหรือกลิ่นอับ นอกจากนี้ยังควรเช็คดูเครื่องยนต์ เพราะจะส่งต่อการใช้งานและค่าซ่อมบำรุงรถในระยะยาว ซึ่งจะสามารถเช็คได้จากการลองสตาร์ทรถยนต์ หากอยู่ในสภาพปกติเครื่องยนต์จะเรียบ นิ่ง ไม่สะดุด

5.ทดลองขับ

เมื่อตรวจสอบสภาพของรถเสร็จแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการทดลองขับรถ โดยเริ่มด้วยการปรับท่านั่งให้ถูกต้องในการขับขี่ ปรับพวงมาลัยรถกับกระจกให้เหมาะสม สร้างความคุ้นเคยกับรถ และเป็นการทดสอบว่า รถนี้เหมาะกับเราแค่ไหน และระหว่างการทดลองขับก็ดูระบบเกียร์ เบรก คันเร่ง ล้อ ช่วงล่าง และการตอบสนองของรถ รวมถึงเช็คความสะดวกสบายกับความถนัดในระหว่างการขับ

6.ติดต่อไฟแนนซ์ (ในกรณีที่ต้องการผ่อนจ่าย)

โดยปกติ เต๊นท์รถมือสองจะมีคอนเนคชั่นกับบริษัทไฟแนนซ์ไว้บริการลูกค้าอยู่แล้ว ซึ่งจะทำให้การซื้อ-ขายเป็นไปอย่างง่ายดายมากขึ้นสำหรับคนที่ยังไม่มีเงินก้อนหรือไม่สามารถซื้อด้วยเงินสดได้ในครั้งเดียว เพราะเพียงแค่ผู้ซื้อยื่นเอกสารที่ได้ระบุตามหัวข้อข้อด้านบนไป ทางเต็นท์รถกับบริษัทไฟแนนซ์ก็จะไปดำเนินการตามขั้นตอนกันเอง ที่เหลือก็คือรอให้เอกสารผ่านการอนุมัติ และทำสัญญาซื้อ-ขาย ก็เป็นอันเสร็จสิ้น แต่การซื้อรถจากเต๊นท์รถมือสอง ที่จดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัด, ห้างหุ้นส่วนจำกัด, ห้างหุ้นส่วนสามัญ และ ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล  ผู้ซื้อจะต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT 7% ด้วย ไม่ว่าจะซื้อสดหรือผ่อนก็ตาม เช่น รถที่คุณกำลังจะซื้อราคา 300,000 บาท จะมี VAT 7% คือ 21,000 บาท ซึ่งรวมเงินทั้งหมดที่คุณต้องจ่ายเป็น 321,000 บาท ยกเว้นกรณีที่ซื้อ “รถบ้าน” หรือก็คือการซื้อต่อมาจากบุคคลธรรมดาที่เป็นผู้ใช้งานและขายต่อรถนี้ให้เราโดยตรง ก็ไม่ต้องเสีย VAT 7%

7.ทำประกันรถยนต์

การซื้อ ประกันภัยรถยนต์ เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญที่ต้องเลือกให้คุ้มค่าด้วยเช่นกัน เพราะความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุนั้นอาจมีเพิ่มมากขึ้น จากการสึกหรอตามการใช้งานที่ผ่านมาของรถยนต์ ถึงแม้ว่าจะเราเลือกซื้อรถมือสองที่มีสภาพที่ดี แต่ก็ต้องยอมรับความเสี่ยงที่มากกว่ารถยนต์มือหนึ่ง ซึ่งหากคุณกำลังมองหาตัวช่วยในการประหยัดค่าเบี้ยประกันรถยนต์แล้วล่ะก็ การติดตั้งกล้องติดรถยนต์ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยลดค่าเบี้ยประกันรถยนต์ของคุณลงได้ 5-10% ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กำหนด

ทั้งนี้ หากผู้บริโภคท่านใดได้รับความเสียหายจากการซื้อสินค้าออนไลน์ สามารถแจ้งความดำเนินคดีกับสถานีตำรวจในพื้นที่โดยเร็วที่สุดหรือแจ้งความออนไลน์ได้ทางเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com หรือโทร 1441 หรือสามารถแจ้งเบาะแสมายังสภาองค์กรของผู้บริโภคได้ตามช่องทางด้านล่าง

  • ร้องเรียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ tcc.or.th คลิกลิงก์ https://crm.tcc.or.th/?entryPoint=Portal&action=complain…  
  • ไลน์ออฟฟิเชียล (Line Official) : @tccthailand คลิกลิงก์ https://lin.ee/uhDyO1U
  • อินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก (Facebook Inbox) : สภาองค์กรของผู้บริโภค
  • อีเมล : [email protected]
  • โทรศัพท์ : 02 239 1839 กด 1

ขอขอบคุณข้อมูล : 7 ข้อเตรียมตัวก่อนตัดสินใจซื้อ ‘รถมือสอง’