การประชุมคณะอนุกรรมการด้านบริการสาธารณะ พลังงาน และสิ่งแวดล้อม สภาผู้บริโภค ครั้งที่ 5/2566 คณะอุนกรรมการฯ ได้ติดตามประเด็นปัญหาราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 พบว่า ค่าการตลาดน้ำมันกลุ่มเบนซินแก๊สโซฮอล์สูงเกิน 3 บาทต่อลิตรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ค่าการตลาดที่เหมาะสมตามที่คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) กำหนดไว้ที่ 2 บาทต่อลิตร และช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2566 ปรากฏข่าวในสื่อต่าง ๆ ว่า กระทรวงการคลังจะไม่ต่อมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 5 บาทต่อลิตร ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 21 กรกฎาคม 2566 ซึ่งจะส่งผลให้ราคาน้ำมันดีเซลปรับสูงขึ้น และส่งผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำมัน
ดังนั้น จึงมีการจัดแถลงข่าวขึ้น เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 ณ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค โดยมีข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลรักษาการณ์และรัฐบาลใหม่ที่จะจัดตั้งในอนาคตอันใกล้เพื่อให้ความเป็นธรรมต่อผู้ใช้น้ำมัน ดังนี้ 1) ให้ฐบาลกำหนดให้เกณฑ์ค่าการตลาดที่เหมาะสมเป็นมาตรการบังคับ 2) ให้รัฐบาลตรวจสอบและเปิดเผยต้นทุนการประกอบการและต้นทุนราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่โรงกลั่นขายให้ผู้ค้าน้ำมัน
3) ให้รัฐบาลทบทวนนโยบายการปล่อยลอยตัวราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ไร้การควบคุม ว่าก่อให้เกิดการแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรมต่อผู้ประกอบธุรกิจน้ำมันรายเล็กจริงหรือไม่ และให้ความเห็นคัดค้านกรณีที่กระทรวงการคลังจะไม่ต่อมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 5 บาทต่อลิตร เพราะจะทำให้ราคาดีเซลสูงขึ้นอาจทำให้ความสามารถการแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศด้อยลงได้
ในการประชุมครั้งนี้ คณะอนุกรรมการฯ มีมติให้จัดตั้งคณะทำงานเพื่อรวบรวม ให้ความเห็นทางข้อกฎหมาย เพื่อเสนอในเวทีรับฟังความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน (ฉบับที่ …) โดยมีเวทีสัมมนาครั้งสุดท้ายในวันที่ 22 มิถุนายน 2566
นอกจากนี้ คณะอนุกรรมการฯได้ มีมติให้ชะลอการศึกษา/วิจัยเรื่อง การสนับสนุนการติดตั้งโซลาร์เซลล์บนหลังคาบ้านด้วยระบบหักลบหน่วยไฟฟ้า (net metering) ไปก่อนโดยให้นำไปบรรจุในแผนงานของคณะอนุกรรมการสำหรับปีงบประมาณ 2567 แทน เนื่องจากการขับเคลื่อนเรื่อง net metering มีความคืบหน้าไปเป็นลำดับ สิ่งที่ยังขาดอยู่น่าจะเป็นการขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดนโยบายมากกว่าจะเป็นการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม