จากปัญหาที่ผู้บริโภคถูกยกเลิกการเดินทางท่องเที่ยวก่อนการเดินทาง การยกเลิกที่พักของผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว และปัญหาการโฆษณาเสนอขายโปรแกรมทัวร์ที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ซึ่งสร้างความเสียหายและไม่มีการชดเชยเยียวยาความเสียหายต่อผู้บริโภคอย่างเป็นธรรม ส่งผลให้มีประชาชนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ในการประชุมคณะอนุกรรมการด้านสินค้าและบริการทั่วไป ครั้งที่ 2/2567 เมื่อวันศุกร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งมี ดร.ไพบูลย์ ช่วงทอง เป็นประธานที่ประชุม ได้มีมติเห็นชอบให้จัดทำข้อเสนอแนะนโยบายและมาตรการการแก้ไขปัญหาบริการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยมีข้อเสนอแนะที่สำคัญสรุปได้ดังนี้
- กรณีที่ถูกยกเลิกทัวร์ โดยไม่ใช่ความผิดของนักท่องเที่ยว ให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวต้องคืนเงินให้แก่ผู้บริโภคเต็มจำนวนของเงินที่จ่ายไปโดยไม่มีการหักค่าใช้จ่าย
- ห้ามขายแพ็กเกจทัวร์ล่วงหน้าเกิน 6 เดือน เนื่องจากพบว่า การขายแพ็กเกจทัวร์ล่วงหน้าเป็นระยะเวลานานเป็นความเสี่ยงที่ผู้บริโภคอาจจะถูกเอาเปรียบจากผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวที่ไม่สามารถดำเนินกิจการได้ตามแผนการนำเที่ยวที่เสนอขาย
- ขอให้กรมการท่องเที่ยวเพิ่มเติมข้อมูลบนเว็บไซต์กรมการท่องเที่ยว โดยให้มีลิงก์เชื่อมโยงข้อมูลสถานะการส่งงบแสดงฐานะทางการเงินร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ประจำปี ว่ายังคงมีสถานะทางการเงินปกติ ส่งงบล่าช้า หรือสถานะขาดทุน เพื่อให้ผู้บริโภคมีข้อมูลเพียงพอในการตัดสินใช้บริการธุรกิจนำเที่ยว
- ขอให้กรมการท่องเที่ยว จัดตั้งกองทุนชดเชยเยียวยาผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบจากผู้ประกอบการที่ไม่สุจริตตามสัดส่วนวงเงินจากการเรียกเก็บค่าบริการนำเที่ยวจากนักท่องเที่ยวที่สอดคล้องตามขนาดการประกอบกิจการของผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว
- ขอให้กรมการท่องเที่ยวเผยแพร่ข้อมูลบริษัทนำเที่ยวที่จำเป็นโดยภาพรวม เพื่อให้ประชาชนและผู้บริโภคสามารถเข้าถึงและตรวจสอบข้อมูล การประกอบกิจการ ผลกำไร และการร้องเรียนได้
- ขอให้กรมการท่องเที่ยวเร่งดำเนินการศึกษาเพื่อพิจารณาเพิ่มการวางหลักประกันเข้ากองทุนคุ้มครองธุรกิจนำเที่ยว จากเดิม 60,000 บาท เนื่องจากวงเงินเดิมไม่เพียงพอต่อการชดเชยเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นในการดูแลนักท่องเที่ยว และทำให้ขาดความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย