ในการประชุมคณะอนุกรรมการด้านอสังหาริมทรัพย์และที่อยู่อาศัย สภาองค์กรของผู้บริโภค ครั้งที่ 2/2566 โดยมี ผศ.ดร. จุมพล ชื่นจิตต์ศิริ กรรมการนโยบายสภาองค์กรของผู้บริโภค ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ได้เชิญผู้แทนกรมบังคับคดี คือ กตมน ทัลวัลลิ์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีแพ่ง กรมบังคับคดี ร่วมให้ข้อมูลถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา กรณีบริษัทเอกชนซื้อบ้านติดจำนองจากการขายทอดตลาดไปแล้วไปทำสัญญาเช่าซื้อหรือปล่อยขายต่อให้กับผู้บริโภค โดยที่ไม่ได้แจ้งกับผู้บริโภคว่าบ้านยังติดภาระจำนองกับธนาคารอยู่ หรือบริษัทไม่ได้นำเงินไปชำระหนี้จำนองให้เสร็จสิ้นก่อนทำสัญญาต่อกับผู้บริโภค ทำให้ปัจจุบันมีผู้บริโภคหลายรายที่ถูกธนาคารฟ้องขับไล่เรียกค่าเสียหาย
ผู้แทนกรมบังคับคดีได้แจ้งว่า รับทราบปัญหาดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่องและพยายามหาแนวทางแก้ไขปัญหา โดยล่าสุดกรมบังคับคดีได้ออกคำสั่งที่ 22/2566 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นการแก้ไขเนื้อหาของคำสั่งกรมบังคับคดีที่ 501/2560 เรื่องการขายทอดตลาดทรัพย์สินติดจำนอง
จากเดิมที่ระบุว่าหากผู้รับจำนองไม่แจ้งเจ้าพนักงานบังคับคดีภายในเวลาที่กำหนด ว่าต้องการขายแบบปลอดจำนองหรือติดจำนอง ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีประกาศขายทอดตลาดโดยติดจำนองไป เปลี่ยนเป็น “กรณีที่ผู้รับจำนองไม่แจ้งวิธีการขายและภาระหนี้จำนองปัจจุบันภายในกำหนด ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีประกาศขายทอดตลาดทรัพย์สินดังกล่าวโดยปลอดการจำนอง และเมื่อขายทอดตลาดได้ให้กันเงินไว้ เพื่อชำระหนี้จำนองต่อไป”
คณะอนุกรรมการฯ เห็นว่าการแก้ไขคำสั่งดังกล่าว จะทำให้ราคาทรัพย์สินในการขายทอดตลาดมีราคาขายที่เป็นธรรมต่อลูกหนี้ของธนาคารมากขึ้น ทั้งนี้ในการประชุมครั้งถัดไป คณะอนุกรรมการฯ จะได้เชิญผู้แทนสถาบันการเงินต่างๆ มาให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อประกอบการพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหากรณีนี้ต่อไป