ผู้เสียหายอุบัติเหตุเปรมประชาได้เงินเยียวยาครบแล้ว หลังผ่านมา 8 ปี 6 เดือน ด้านหน่วยงานประจำจังหวัดเชียงใหม่ ชี้ ปัญหาระบบขนส่งฯ ในเชียงใหม่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ชงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการ
จากกรณี อุบัติเหตุรถโดยสารประจำทางของบริษัท เปรมประชาขนส่ง จำกัด เส้นทางแม่ฮ่องสอน – เชียงใหม่ พลิกคว่ำ เมื่อปี 2557 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย บาดเจ็บอีกร่วม 61 ราย นั้น ที่ผ่านมาผู้เสียหายทุกรายต้องใช้สิทธิเรียกร้องการชดเชยเยียวยาจากบริษัทด้วยการฟ้องคดีต่อศาล จนคดีสิ้นสุดในชั้นอุทธรณ์เมื่อปี 2560 และเหลือผู้เสียหายเพียงสามครอบครัว แต่บริษัทก็ยังปฏิเสธการจ่ายค่าเสียหายตามคำพิพากษา จนต้องเข้าร้องเรียนต่อกระทรวงคมนาคมและกรมการขนส่งทางบกหลายครั้ง โดยมีมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภคจังหวัดแม่ฮ่องสอน มูลนิธิพะเยาเพื่อการพัฒนา และศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภคจังหวัดเชียงใหม่ เข้าให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมายนั้น
วันที่ 17 ตุลาคม 2565 ลำดวน มหาวัน หัวหน้าหน่วยงานประจำจังหวัดเชียงใหม่ สภาองค์กรของผู้บริโภค ระบุว่า ผู้เสียหายจากอุบัติเหตุรถโดยสารประจำทางบริษัท เปรมประชาขนส่ง สามครอบครัวสุดท้ายได้รับการเยียวยาจากบริษัทแล้ว โดยบริษัทยินยอมจ่ายค่าเสียหายตามคำพิพากษาพร้อมดอกเบี้ยครบทั้งหมดเป็นเงินรวม 2.8 ล้านบาท หลังจากต้องต่อสู้เรียกร้องสิทธิมาตลอด 8 ปี 6 เดือน นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับผู้เสียหายทั้งสามครอบครัว และเป็นความสำเร็จขององค์กรของผู้บริโภค และองค์กรต่าง ๆ ที่ทำงานร่วมกันมาอย่างยาวนาน
หัวหน้าหน่วยงานประจำจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า แม้จะมีอุบัติเหตุครั้งใหญ่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่ปัญหาระบบขนส่งสาธารณะในเส้นทางดังกล่าวยังคงไม่ได้รับการแก้ไข ปัญหาสำคัญของรถโดยสารสาธารณะในจังหวัดเชียงใหม่ คือปัญหาการผูกขาดสัมปทานที่มีมายาวนานและยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้ผู้บริโภคขาดทางเลือก รวมถึงเมื่อไม่มีคู่แข่งขันทางธุรกิจย่อมส่งผลต่อเรื่องคุณภาพบริการ และมาตรฐานความปลอดภัยที่ผู้บริโภคจะได้รับ โดยปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นทั้งกับรถขนส่งสาธารณะในเมือง ระหว่างอำเภอ และระหว่างจังหวัด เช่น สหกรณ์รถแดงในเชียงใหม่เป็นรายเดียวที่ทำเรื่องการเดินรถสาธารณะในเขตเมือง บริษัทเปรมประชาขนส่ง ที่เป็นผู้ประกอบการรายเดียวที่เดินรถในเส้นทางเชียงใหม่ – แม่ฮ่องสอน
“แม้วันนี้บริษัท เปรมประชาขนส่ง จะยอมจ่ายค่าเสียหายตามคำพิพากษาให้กับผู้เสียหายสามครอบครัวสุดท้ายแล้ว แต่บริษัทก็ยังคงเป็นผู้ประกอบรายเดียวที่เดินรถในเส้นทางดังกล่าว ขณะที่ผู้บริโภคกลับไม่มีทางเลือกอื่นและถูกบังคับให้ต้องเลือกใช้บริการรถโดยสารของบริษัท แม้จะไม่มีความเชื่อมั่นแล้วก็ตาม
อย่างไรก็ตามในอดีตที่ผ่านมาบริษัทจะเคยถูกศาลสั่งให้ล้มละลายแล้ว ทำให้เกิดคำถามมากมายว่า เช่น ทำไมบริษัทจึงยังได้รับอนุญาตให้เดินรถ ทำไมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงไม่เข้ามาดูแลเรื่องนี้ และที่สำคัญสิทธิในการเลือกบริการรถโดยสารสาธารณะที่ปลอดภัยของผู้บริโภคอยู่ตรงไหน ” หัวหน้าหน่วยงานประจำจังหวัดเชียงใหม่ กล่าว
สำหรับข้อเสนอในเรื่องระบบขนส่งสาธารณะที่ปลอดภัยและเป็นธรรม ลำดวน กล่าวถึงประเด็นเรื่องความปลอดภัยของการใช้รถขนส่งสาธารณะว่า อยากให้คดีเปรมประชาขนส่งเป็นบทเรียนสำหรับภาครัฐ ในการมีมาตรการกำกับผู้ประกอบการขนส่งให้ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายของผู้บริโภคที่เจตนาปล่อยให้เวลาล่วงเลยมานานถึงขนาดนี้ มากกว่าที่จะปล่อยให้ผู้บริโภคที่เสียหายต้องดำเนินการเรียกร้องสิทธิเพียงลำพังโดยที่กลไกของรัฐไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้เลย นอกจากนี้ยังขอเสนอให้ทบทวนเรื่องการมีผู้ประกอบการขนส่งหนึ่งรายต่อหนึ่งเส้นทาง เพราะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคขาดทางเลือกและขาดโอกาสที่จะเลือกการเดินทางที่ปลอดภัย นอกจากนี้ เสนอว่าควรมีหน่วยงานที่เข้ามาจัดระบบและปรับปรุงระบบขนส่งสาธารณะภายในจังหวัด เพื่อเพิ่มทางเลือกและความปลอดภัยของผู้บริโภค
อานุด อยู่สุภาพ ตัวแทนผู้เสียหายกล่าวว่า เราอยากให้กรณีนี้เป็นบทเรียนสำหรับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก เพราะกว่าจะถึงวันนี้พวกเราสูญเสียกันมามากแล้ว เงินค่าเสียหาย 2.8 ล้านบาทที่ได้จากบริษัทไม่ได้ทำให้ทุกอย่างที่สูญเสียไปกลับคืนมา เวลา 8 ปี 6 เดือน กว่าบริษัทจะยอมจ่ายค่าเสียหายตามคำพิพากษา มันนานเกินไปสำหรับพวกเราทุกคนจริง ๆ หน่วยงานรัฐควรช่วยเหลือพวกเราได้มากกว่านี้ เพราะพวกเราคือผู้บริโภค
“พวกเราคนแม่ฮ่องสอนต้องการบริษัทรถโดยสารที่มีคุณภาพ มีความรับผิดชอบต่อผู้โดยสารทุกคน เราขอเรียกร้องสิทธิคนแม่ฮ่องสอน เพราะคนแม่ฮ่องสอนไม่ใช่พลเมืองชั้นสอง พวกเราต้องมีขนส่งสาธารณะที่ปลอดภัย ที่ผ่านมาคนแม่ฮ่องสอนไม่เคยมีทางเลือกที่ดีสำหรับการเดินทางที่ปลอดภัย เพราะบริษัท เปรมประชาฯ เป็นเพียงบริษัทเดียวที่ให้บริการรถโดยสารประจำทางในเส้นทางเชียงใหม่ – แม่ฮ่องสอน ในเส้นทางนี้ เราอยากให้มีบริษัทอื่นวิ่งให้บริการในเส้นทางนี้ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับคนแม่ฮ่องสอนทุกคน” อานุด กล่าว